อยากมีธุรกิจส่วนตัว ไม่ยาก "นิยามของงานประจำแสนสุข"

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านผมชื่อ “มาวิน” ผมเองเคยเป็นลูกจ้างทำงานประจำมาก่อน ทุกๆ วันผมต้องเดินทางไปทำงาน ตอกบัตรเข้าเช้า ตอกบัตรออกตอนเย็น ทำกิจกรรมแบบนี้ซ้ำๆ และผมก็คิดว่ามันมีแค่นี้จริงๆ เพราะเหตุนี้หลายคนจึงเรียกมันว่างานประจำ แต่ในสมัยก่อนที่ผมเป็นพนักงานประจำนั้น ผมกลับรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมันค่อนข้างจะโอเค ผมเลยขอเรียกมันว่า

ไอเดียธุรกิจเล็กๆ “งานประจำแสนสุข”

เจ้างานประจำแสนสุขของผมทำให้ผมคิดว่าผมอยากจะเกษียณไปกับบริษัทที่ผมทำอยู่ เพราะบริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทใหญ่โต มีชื่อเสียง ใครๆ ก็อยากเข้ามาเป็นส่วนร่วม เป็นพนักงาน มันดูดีใช่มั้ยล่ะครับ… แต่ชีวิตผมก็เกิดจุดที่ต้องเปลี่ยนแปลงจนได้…

ทุกคนล้วนสร้างเนื้อสร้างตัวกันแล้วส่วนผมกำลังทำอะไรอยู่

ผมกำลังหมกมุ่นอยู่กับงานประจำน่ะซิครับ มันผิดมากหรือเปล่าที่ผมผันอยากจะเป็นลูกจ้างประจำไปจนเกษียณ บอกผมหน่อยซิ! จริงอยู่ที่มันก็ไม่ผิดที่ฝันอยากจะเป็นลูกจ้างประจำไปจนเกษียณ แต่ถ้าผมยังไม่เริ่มต้นที่จะทำอะไรเป็นของตัวเองตั้งแต่วันนี้ ตอนแก่ๆ ผมจะมีภาพเป็นยังไงนะ…

การทำงานประจำจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เด็กรุ่นใหม่ๆ ก็ก้าวเข้ามาเรื่อยๆ คนเก่าๆ ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้ทันเด็กๆ ตอนที่เรายังเป็นเด็กใหม่ หากเราทำอะไรผิดพลาดรุ่นพี่ๆ ก็คงจะให้อภัยเรา เพราะคิดว่าเรายังเด็ก ยังเด๋อๆ ด๋าๆ แต่ถ้าเรามีประสบการณ์แล้วเราทำผิดพลาดล่ะ… มันจะถูกมองว่า “เราไม่เก่ง” น่ะซิ…

ฟังแล้วสยองมั้ยครับ

ผมขอยกตัวเอาตัวอย่างเรื่องราวของพนักงานรุ่นเก่าคนหนึ่งที่ทำงานให้กับบริษัทเต็มกำลัง เต็มความสามารถมาโดยตลอด อยู่มาวันหนึ่งมีพนักงานเลือดใหม่เข้ามาในบริษัท เจ้าของบริษัทก็บอกให้พนักงานรุ่นเก๋าสอนงานน้องใหม่ให้เต็มที่ ด้วยความทุ่มเทพนักงานรุ่นเก๋าคนนั้นก็ตั้งใจสอนทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดเปลือก แต่สุดท้ายรุ่นน้องคนนั้นกลับถูกเลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าคนรุ่นเก๋าอีกที… อยากรู้ใช่มั้ยว่าคนรุ่นเก๋าจะรู้สึกอย่างไร ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา… คนรุ่นเก่าคนนั้นก็คือผมเองครับ!

ผมไม่ได้บอกว่าการเป็นลูกจ้างมืออาชีพเป็นเรื่องที่ไม่น่าพิศมัย ถ้าเรามีความรู้ความสามารถเต็มเราก็อาจจะก้าวหน้าในบริษัทยักษ์ใหญ่ จนกลายเป็นซีอีโอ กลายเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ได้ไม่ยาก แต่มีกี่คนล่ะที่มีโอกาสเดินทางไปถึงดาวดวงนั้น (ลิบๆๆ)

ลองติดตามเรื่องราวของผม (นายมาวิน) ดูครับว่าการจะเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นมันยากเย็นขนาดไหน หรือมันง่ายดายกว่าที่เราคิด แล้วคุณผู้อ่านลองค้นหาตัวเองให้เจอ ลองกำหนดอนาคตของตัวเองด้วยตัวเอง (ฟังดูงงๆ ปนเท่มั้ยเอ่ย…) เหมือนกับเราต้องกำหนดชะตาชีวิตของเราด้วยมือเราเอง อันที่จริงคุณคิดว่าคุณอยากเป็นลูกจ้างมืออาชีพจริงจังๆ ผมแนะนำให้โยนหนังสือเล่มนี้ทิ้งไปได้เลยครับ มันไม่มีประโยชน์กับคุณแน่ๆ แต่ถ้าคุณคิดอยากจะทำธุรกิจส่วนตัวด้วยมือเล็กๆ ของคุณให้ยิ่งใหญ่แล้วล่ะก็ ลองติดตามเรื่องราวของ “ธุรกิจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่” เล่มนี้ดูนะครับ… ว่าแล้วก็ขึ้นบทเรียนแรกกันเลยดีกว่า…

(โปรดติดตามตอนต่อไปครับ)