หาหุ้นโตเร็วสไตล์VI : เราจะหาหุ้นโตเร็วได้จากที่ไหน?

เราจะหาหุ้นโตเร็วได้จากที่ไหน?

สำหรับนักลงทุนหุ้นโตเร็วการมองหาหุ้นที่จะเติบโตไปข้างหน้าถือเป็นงานหลัก และเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้มีประสบการณ์มานานการมองหุ้นเป็น แล้วสามารถรู้ได้ว่าหุ้นตัวไหนจะเติบโตคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าเป็นนักลงทุนที่ประสบการณ์ยังน้อย เราจะหาหุ้นโตเร็วได้ยังไง จะรู้ได้ยังไงว่าหุ้นที่เราติดตาเป็นหุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock ที่เราเฝ้าตามหาอยู่ มาติดตามกันดีกว่าครับ

ขั้นแรก “มองหากิจการที่มีคู่แข่งน้อยๆ”

คู่แข่งขัน ถือเป็นศัตรูของการเติบโต ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจจริง หรือคิดจะซื้อหุ้นที่ทำกิจการในตลาดหลักทรัพย์ การมองอุตสาหกรรมโดยภาพรวมให้ออกก่อนซื้อหุ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับขั้นตอนนี้ วิธีการก็คือ เราต้องมองหากิจการที่มีคู่แข่งน้อยๆ คำว่า “คู่แข่งน้อย” มันหมายความได้หลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น

• กิจการที่ดูไม่น่าทำเป็นกิจการตะวันตกดินแล้วทำให้คู่แข่งไม่อยากเข้ามาในอุตสาหกรรมอีก เพราะทำแล้วกลัวไปไม่รอด แบบนี้เข้าข่าย “หุ้นที่ดีในอุตสาหกรรมที่แย่” ตามสูตรของ “ปีเตอร์ ลินซ์” นักลงทุนระดับโลก
• กิจการที่มีกำไรน้อยไม่น่าทำแต่หุ้นที่คุณลงทุนนั้นทำมันได้ดี กิจการเหล่านี้อาจดูไม่ดึงดูดให้คู่แข่งอยากเข้ามาแข่งขัน เพราะมาร์จิ้นต่ำ กำไรน้อย แต่ถ้าคุณมองดีๆ จะเห็นธุรกิจบางธุรกิจที่ทำมันได้ดี อาจเป็นเพราะมีผู้บริหารที่มองเห็น “ช่องว่าง” ในการประกอบกิจการที่แทบจะไม่มีคู่แข่ง เพียงแค่แข่งกับตัวเอง ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตให้ได้ก็พอ ผมเคยเจอตัวหนึ่งเป็นกิจการปั้มน้ำมัน ที่มาร์จิ้นต่ำมากๆ ปรากฏว่ากิจการนั้นกลายเป็นหุ้นสิบเด้ง ภายใน 2-3 ปีเท่านั้นเอง ลองมองหาดูซิครับ
• กิจการกึ่งผูกขาด และอยู่ในกระแสเมกะเทรนด์ กิจการเหล่านี้ดูง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น กิจการสนามบิน กิจการโรงพยาบาลเฉพาะทางบางแห่ง กิจการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า กิจการขนส่งคนด้วยระบบรางเป็นต้น แต่ข้อควรระวังก็คือ เราต้องมองให้ออกว่าหุ้นเหล่านั้นมีคนเห็นเหมือนๆ กับเราแล้วหรือไม่ ถ้าคนส่วนใหญ่ก็เห็นแบบที่เราเห็น หุ้นตัวนั้นอาจจะแพงเกินไปแล้วก็ได้ครับ

ขั้นที่สอง “มองการเติบโตของยอดขาย”

ก่อนที่หุ้นตัวใดตัวหนึ่งจะเติบโตขึ้นมากลายเป็น Growth Stock ต้องผ่านขึ้นแรกก่อนก็คือ “ยอดขายต้องเติบโต” และถ้ายอดขายโตเร็วจะช่วยเร่งการเติบโตของกิจการเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี … การที่ยอดขายจะเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น ต้องมีเบื้องหลังที่คอยช่วยเหลือ การบริหารจัดการที่ดี จับจุดเก่ง การตลาดดี สิ่งเหล่านี้ช่วยส่งเสริมยอดขายได้เป็นอย่างดี ยิ่งหุ้นบางตัวมีภาวะกึ่งผูกขาด ยิ่งทำให้ยอดขายเติบโตในอัตราเร่งเมื่อจังหวะเวลาเหมาะสม

หุ้นที่ยอดขายถือว่าโตเร็วสำหรับผมนั้นจะสังเกตหุ้นที่มีรายรับเติบโตตั้งแต่ 10-25% ต่อปี ขึ้นไป ผมจะเริ่มต้น Scan หุ้นจากยอดขายสินค้าที่เขาทำได้ดี และดีขึ้นเรื่อยๆ เก็บชื่อหุ้นสะสมเอาไว้ และค่อยๆ นำมาพิจารณาวิเคราะห์เจาะลึกกันภายหลัง เพราะในช่วงแรกของการเติบโต กิจการเหล่านั้นอาจต้องใช้เงินทุนสูงเป็นจำนวนมากๆ อาจต้องเพิ่มทุน บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเข้าไปซื้อ รอให้เวลามันสุกงอมจะเป็นแนวทางที่ดีกว่าครับ

ขั้นที่สาม “เริ่มสังเกตเห็นต้นทุนขายที่ลดลง หรือคงที่”

เมื่อเราเห็นว่ายอดขายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราลงทุนได้ เพราะในช่วงเติบโตอาจต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมาก และกำไรจะยังไม่มา แต่สิ่งที่เราตรวจติดตามได้ก็คือ “ต้นทุนขาย” เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็นต้นทุนขายที่ลดลง หรือคงที่ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ เพราะการที่ต้นทุนขายโตช้ากว่ายอดขาย มันอาจหมายถึงกิจการเข้าสู่จุดคุ้มทุน หรือเกิดการประหยัดต่อขนาด Economic of Scale เข้าให้แล้ว และถ้าเราเลือกกิจการที่คู่แข่งน้อยตั้งแต่แรก มันจะทำให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าเวลากิจการเริ่มเข้า “ฤดูเก็บเกี่ยว” จะไม่มีคนมาทำแข่งให้เราต้องกังวลใจ และบางครั้งสามารถถือหุ้นตัวนั้นได้ยาวนานเป็นปี หรือหลายสิบปีก็มีครับ

ขั้นตอนสุดท้าย “กำไรต่อหุ้นปรับตัวสูงขึ้น”

เมื่อทุกอย่างเข้าที่ และลงตัว สิ่งที่ตามมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดก็คือ “กำไรต้องมา” การที่นักลงทุนหุ้นโตเร็วติดตามหุ้นตัวหนึ่ง และเฝ้ารอจังหวะการลงทุน ติดตามต้นทุนขายที่ลดลง มองรอบด้านถึงคู่แข่งขัน หรือแม้แต่ต้องพิจารณาสินค้าทดแทน ที่อาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนไป ถ้าทำได้อย่างลงตัวแล้วละก็ กำไรก็ต้องมาเป็นธรรมดา

สิ่งที่สำคัญสำหรับหุ้นที่จะโตเร็วก็คือ “กำไรต่อหุ้น” กิจการบางกิจการกำไรโตก็จริง แต่ปริมาณหุ้นก็มากขึ้นตามไปด้วย นั่นเป็นเพราะอาจมีการเพิ่มทุน เพิ่มหุ้นเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งของกำไรต่อหุ้นให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น สิ่งนี้บางครั้งเป็นเส้นผมบังภูเขา ที่นักลงทุนหลายคนมองข้ามไป คือซื้อหุ้นถูกตัวแล้ว แต่เจอผู้บริหารที่ผิดคน ชอบลดมูลค่าหุ้นตัวเอง แบบนี้ก็ต้องระวังนะครับ แต่ถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องกำไรต่อหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น และหุ้นก็จะขึ้นอย่างรวดเร็วสมกับการรอคอยของเราอย่างแน่นอนที่สุดครับ

ใครสนใจลงทุนอสังหา ติดตามอีกเว็บของนายแว่นธรรมดาได้ที่นี่ครับ www.topofliving.com

ติตดาม “นายแว่นธรรมดา” ได้ที่เว็บ FINNOMENA ได้อีกช่องทางนะครับ

สนใจการลงทุนอสังหา “คลิ๊กอ่านที่นี่ครับ”

ไม่มีเวลาอ่านฟังในรูปแบบคลิ๊ปเสียง “คลิ๊กที่นี่”

อ่านหุ้นรถไฟฟ้าเพิ่มเติม “คลิ๊กเพื่ออ่าน”

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

#‎หนังสือน่าอ่าน‬ เจาะหุ้น VI เกาะกระแสเมกะเทรนด์

กระแสเมกะเทรนด์ในยุคใหม่มีอะไรบ้าง และเราจะลงทุนอย่างไรให้เกาะไปกับกระแส เพื่อไม่ให้ตกรถ หนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าประสบการณ์ลงทุนในหุ้น จะทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับหุ้นที่เราไม่รู้จัก และปลอดภัยจากการลงทุนได้มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

บทนำ “จุดเริ่มต้นของการลงทุนแนววีไอ”
บทที่ 1 เลือกหุ้นอย่างไรให้ปลอดภัย
บทที่ 2 เจาะหุ้นเหล็ก
บทที่ 3 ยุคแห่งพลังงานสะอาด และเมกะเทรนด์โรงไฟฟ้า
บทที่ 4 บทเรียนหุ้นพลังงานทดแทน
บทที่ 5 เจาะแก่นหุ้นเล็กโตไว
บทที่ 6 วีไอซื้อหุ้นต้องดูอะไรบ้าง?
บทที่ 7 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นโภคภัณฑ์
บทที่ 8 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นรถไฟฟ้า และหุ้นคอนโดมิเนียม