บันทึกนายแว่นธรรมดา "หุ้นปันผล ขุมทรัพย์ของนักลงทุน หนทางสู่อิสรภาพทางการเงิน"

สวัสดีครับ ในช่วงตลาดหุ้นผันผวนบางวันขึ้น บางวันลง เวลาตลาดกลับตัวเป็น “ขาลง” ก็ลงอย่างน่ากลัวมาก ผมจึงขอนำเสนอการลงทุนในหุ้นประเภทที่ค่อนข้างปลอดภัยในภาวะผันผวนแบบนี้ หุ้นประเภทดังกล่าวก็คือ “หุ้นปันผล” นั่นเองครับ

หุ้นปันผล ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงจะเปรียบได้กับต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่ผู้พักอาศัย อาจไม่ได้เติบโตไปมากกว่าที่เป็นสักเท่าไหร่ แต่มีความสม่ำเสมอในการออกดอก ออกผล ให้ผู้ปลูกเก็บกินได้ตลอดเวลา หุ้นประเภทนี้อาจไม่หวือหวาเท่าหุ้นประเภทโตไว แต่ก็น่าสนใจในแง่ของนักลงทุนที่อยากจะออมเงินไว้ในหุ้นเป็นอย่างยิ่งครับ

นิยามของหุ้นปันผลในความหมายของบทความนี้ก็คือ หุ้นที่มีอัตราการปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 5-10% ต่อปี ติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี และเป็นบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิที่กิจการทำได้ครับ

เราลองมาดูกันว่าการปันผล อย่างน้อย 5-10% ต่อปี ติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี จะทำให้เรา “เพิ่มอัตราการปันผล” ได้อย่างไร ตามตารางต่อไปนี้ครับ

stock yeild

จากตารางดังกล่าวจะเห็นว่า… หากเราลงทุนในหุ้นปันผลที่มีผลตอบแทน 10% ต่อปี ใช้เวลาในการลงทุนไปสิบปี ผลตอบแทนทบต้นในปีที่สิบจะมากถึง 23.6% ต่อปีทีเดียวครับ!!

ผลตอบแทนระดับนี้หมายความว่าหากเรามีเงินลงทุน 1 แสนบาท เราจะได้รับเงินปันผลกลับมา 23,600 บาทต่อปีทีเดียว หากเรามีเงินลงทุน 1 ล้านบาท เราจะได้รับเงินปันผลกลับมา 236,000 บาทต่อปี หมายความว่าเราจะมีเงินใช้ประมาณ 19,000 บาทต่อเดือน สำหรับคนที่ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยอะไร ก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประจำแล้วล่ะครับ หรือผมจะขอเรียกมันว่า “อิสรภาพทางการเงิน” คือ ไม่ต้องทำงานก็มีเงินให้ใช้แบบไม่เดือดร้อนครับ

 

อย่างไรก็ตาม… เราสามารถจำลอง “รูปแบบ” การลงทุนในหุ้นปันผลได้หลากหลายนะครับ ยกตัวอย่างเช่น หากเราเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปันผลเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ก็จะต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่านี้ หรือหากเราเลือกลงทุนในหุ้นปันผล ที่มีแนวโน้มเติบโตไปด้วย ระยะเวลาก็จะเร็วกว่านี้ เพราะนอกจากจะได้เงินปันผลมาทบต้นการลงทุนแล้ว ยังมีส่วนต่างของราคาหุ้นเป็น “กำไรจากส่วนต่างราคา” อีกต่อหนึ่งครับ ลองไปจำลองรูปแบบเล่นๆ ดูนะครับ…

 จะเห็นว่าการลงทุนแบบ “หุ้นปันผล” นั้นมีหนทางที่จะทำให้นักลงทุนมีอิสรภาพทางการเงินได้ไม่แพ้หุ้นประเภทอื่นเลยครับ ส่วนแนวทางการคัดเลือกหุ้นปันผลผมขอคัดลอกบทความจากหนังสือ “หุ้น 5 พารวย” มาให้พิจารณากันครับ

 

อย่างไรก็ตาม… หุ้นแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สำหรับหุ้นปันผลแล้ว ลองให้พิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ครับ

1. มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยการเติบโตนี้อาจจะไม่หวือหวา แต่เติบโตเรื่อยๆ สม่ำเสมอและยั่งยืน กำไรอาจจะสูงขึ้นเล็กน้อยหรือกำไรจะคงที่ก็ได้ครับ

2. ลักษณะการประกอบธุรกิจ ควรเป็นกิจการที่มีมายาวนาน และมีแนวโน้มจะประกอบกิจการต่อไปอย่างยั่งยืน

3. มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 1 และสามารถรักษาสัดส่วนดังกล่าวไว้ได้อย่างต่อเนื่องทุกปี

4. มีรายได้ที่แน่นอนสม่ำเสมอ และมีส่วนต่างค่าใช้จ่ายในการบริหารงานต่อยอดขายคงที่ หรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่มากนัก

5. มีสัดส่วนการปันผลคิดแล้วสูงกว่า 5% เป็นอย่างน้อย โดยสัดส่วนในการปันผลนี้ เราควรคำนึงถึงโอกาสในการปันผลในอนาคตด้วยนะครับ และควรเปรียบเทียบด้วยว่าควรจะได้ดีกว่าการฝากเงินในธนาคาร หรือเทียบกับผลกำไรของการนำเงินไปลงทุนอย่างอื่นด้วย

6. ควรมี PE ต่ำที่สุดในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน การเลือกหุ้นปันผลที่มีประสิทธิภาพควรเลือกหุ้นที่มีความถูกแพงของหุ้น หรือ PE ต่ำที่สุดในกลุ่ม หรือต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ

7. มี ROE (Return on Equity) สูงกว่า 15% ขึ้นไป เพราะการเลือกลงทุนในหุ้นปันผลจะเน้นที่ผลตอบแทนจากการลงทุน และจากเงินปันผลเป็นหลัก หากมี ROE ต่ำกว่า 15% นักลงทุนในหุ้นปันผลจะไม่สนใจหุ้นตัวนั้นเลยครับ

8. ควรมี P/BV ต่ำกว่า 1.5 เท่า โดยกฎนี้ไม่ตายตัวนะครับ เราอาจเจอหุ้นปันผลดีๆ ที่ปันผลสม่ำเสมอ แต่ P/BV อาจสูงก็ได้ครับ ถ้าจะให้ดีสุดๆ ก็ไม่ควรสูงเกิน 1.5 เท่านะครับ เพราะหุ้นดีๆ มักเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุน บางที P/BV สูง แต่พื้นฐานดีน่าซื้อจริงๆ ก็พอจะมองข้ามกฎข้อนี้ไปได้ การลงทุนควรยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้ครับ

 

ถ้าเจอคุณสมบัติครบทั้ง 8 ข้อ ผมจะถือว่าเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าให้ดีลองดูข้อมูลอื่นๆ ประกอบด้วยก็ดีครับ หรือถ้าไม่เจอหุ้นตัวใดที่มีคุณสมบัติครบ ก็พยายามมองหาหุ้นที่มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงทั้ง 8 ข้อดังกล่าวให้มากที่สุดนะครับ

 ลองค้นหา “หุ้นปันผล” ของเราดูครับ ถ้าเจอแล้วกระซิบบอกกันได้นะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

5 stock

หนังสือ “หุ้น 5 พารวย” ลงทุนหุ้นถูกประเภท ถูกจริตตน พาร่ำรวยได้ไม่ยากครับ