บันทึกนายแว่นธรรมดา "สถานการณ์การลงทุนต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?"

สวัสดียามเช้า ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2556

หลายคนกำลังกังวลกับเหตุการณ์บ้านเมือง กลิ่นของสงครามในไครเมีย และสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในประเทศจีน สถานการณ์ในช่วงเวลานี้สำหรับผมแล้วเหมือนมีหมอกจางๆ ที่มองทางข้างหน้ายังไม่ “ชัดเจน” แนวทางที่ผมจะผ่านแนวหมอกนี้ไปข้างหน้า ก็ยังไม่ชัดเจนเช่นกันครับ … อย่างไรก็ตาม ลองมาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลัง “รุ่มเร้า” ตลาดทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้นบ้านเราดังต่อไปนี้ครับ…

เหตุการณ์บ้านเมือง

หลายคนยังมองไม่เห็นทางออก ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร สำหรับผมแล้ว “แสงสว่าง” ของทางออกยังคงมีอยู่ครับ ผมเข้าใจว่าเหตุการณ์รุนแรง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากความไม่เข้าใจกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม “วาง” สิ่งที่ตนเอง “ยึดถือ” และมองผลประโยชน์ส่วนรวม … ผมฝันเอาไว้ว่า จะมีคนกลุ่มหนึ่งคิดถึงส่วนรวม หยุดการ “มี” เปลี่ยนเป็น “ไม่มี” ไม่มีเสื้อเหลือง ไม่มีเสื้อแดง ไม่มีกลุ่มอำนาจเก่า ไม่มีกลุ่มอำนาจใหม่ ไม่มีชมรมคนรักเชียงใหม่ ไม่มีชมรมคนรักอุดรฯ ไม่มี กปปส. ไม่มี นปช. ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีแต่คนไทยที่มองเห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีแต่คนไทยที่รักสามัคคีกัน ถ้าคิดกันแบบนี้ก็มี “โอกาส” ที่จะเดินหน้าแล้วล่ะครับ…

และแน่นอนที่สุดว่า เหตุการณ์การเมืองส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยตรง ทำให้บรรยากาศการทำธุรกิจเสีย นักท่องเที่ยวหดตัว ชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำ การบริโภคในต่างจังหวัดหดตัวอย่างชัดเจน คนเป็นหนี้กันมากขึ้น ทำให้การจับจ่ายลดลง ผมเองก็ได้แต่หวังว่าภาพเหล่านี้จะเป็นภาพเพียง “ชั่วคราว” แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปในที่สุดครับ

เหตุการณ์ “กลิ่น” สงครามในไครเมียร์

สำหรับเหตุการณ์นี้แม้จะอยู่ไกลบ้านเรา แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในบ้านเรา ผลกระทบที่ตรงที่สุดน่าจะเป็น ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เพราะหากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ก็คงจะเสียหายกันหมดครับ … สำหรับผมแล้วเข้าใจว่าเราไม่ควรกังวลไปก่อนล่วงหน้า ทำใจให้เป็นปกติ แล้วลงทุนต่อไปจะดีกว่าครับ

ความกังวลในเศรษฐกิจของจีน

จีนนั้นเป็นประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและร้อนแรงมาในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการ “ขยาย” ทั้งขยายการผลิต ขยายการจ้างงาน ขยายการก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มากมาย แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่ม “ชลอตัว” ทำให้สิ่งที่ขยับขยายเริ่มมีปริมาณที่ “มากเกินไป” จนเกิดผลกระทบต่อสินทรัพย์ในประเทศที่อาจเกิดสภาพล้นตลาดครับ และการขยับขยายที่ผ่านมาจีนก็ต้องใช้เงินเป็นอย่างมาก บริษัทจดทะเบียนในประเทศต่างก็กู้เงินมาลงทุนเกินความจำเป็น ล่าสุดนายกของจีนยังประกาศให้โลกระวัง “คลื่นล้มละลาย” ของบริษัทในจีน หากเกิดขึ้นจริง สิ่งนี้ถือเป็น “หายนะ” ที่แท้จริงในมุมมองของผม แม้มันอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่เราก็ไม่ควรประมาท ควรเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด รักษาสภาพคล่องส่วนบุคคลเอาไว้บ้างก็ดีนะครับ

อย่างไรก็ตาม… มุมมองทั้ง 3 มุมมองนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ การลงทุนนั้นเราควรต้องพิจารณาให้รอบคอบ และเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตนเองให้มากๆ ไว้คราวต่อๆ ไปผมจะมาเล่าเรื่องดีๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตกันบ้าง เพราะ “เหรียญ” ย่อมมีสองด้านเสมอ มีดีก็มีไม่ดีเช่นกัน … โปรดติดตามนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

(ธรรมมะประจำวัน)

“หากเป็นผู้ที่ยังไม่มีควรรู้จักขยันขวนขวาย โดยสุจริต หากเป็นผู้ที่มีแล้วควรรู้จักพอ เพียงแต่ไม่หยุดนิ่ง และรู้จักแบ่งปันแก่ผู้อื่น เพื่อละความโลภออกจากจิตใจ จึงจะนับว่าเป็นผู้ที่มีใจประเสริฐ”

…

 

แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนอยากมีบ้านหลังแรก และต้องการมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

http://www.topofliving.com/ (โดยนายแว่นธรรมดา เช่นเคยครับผม)