เปลี่ยนตัวเองใหม่ไม่ยาก : เมื่อผมต้องบอกลางานประจำ

ลองคิดดูเถิดว่า… มีผู้คนที่ลอยคออยู่ในทะเลชีวิตอย่างไม่มีจุดหมาย อย่างไม่พึงพอใจ ดิ้นรนต่อสู่กับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ปราศจากจุดหมายที่ชัดเจน แล้วตอนนี้เราสามารถบอกกับตัวเราได้มั้ยว่าเราต้องการอะไรจากชีวิต? การกำหนดเป้าหมายของเราย่อมไม่ง่ายนัก มันอาจต้องอาศัยการตรวจสอบตนเองอย่างที่เจ็บปวดที่สุด! แต่มันก็คุ้มค่าแม้จะยากลำบากเพียงใดก็ตาม เพราะว่าในทันทีที่เราสามารถระบุเป้าหมายของเราออกมาได้ เราจะสามารถคาดคิดได้ว่าจะสนุกสนานกับการผจญภัยต่างๆ สู่เป้าหมายที่ชัดเจนในใจเราได้เกือบจะเป็นอัตโนมัติ (ดับเบิ้ลยู. คลีเมนท์ สโตน)

talk

เมื่องานประจำเริ่มเป็น “ตัวฉุด” ชีวิตของผม

จากการที่ผมทำงานประจำมานาน… ต้องตื่นแต่เช้า ผ่าดงรถติดๆ เดินทางไปที่ทำงาน … ในห้วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา… แม้ผมจะไม่ได้โดดเด่นในฐานะลูกจ้างประจำมากนัก… แต่ถ้าจะบอกว่าไม่มีผลงานอะไรเลย ก็ดูเหมือนจะเป็นคำกล่าวที่แรงเกินไป…

ผมเองในฐานะพนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง ได้ฝากผลงานเอาไว้บ้าง แถมเป็นโครงการขนาดใหญ่เสียด้วย จำนวนเงินในโครงการที่พนักงานอย่างผมเคยต้องรับผิดชอบนั้นทะลุหลักร้อยล้านบาท! แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนนั้น… ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว… มันหมายถึงการจบลงของชีวิตการทำงานได้เลยทีเดียว!!

เสียงในหัวของมนุษย์เงินเดือน

เสียงในหัวของมนุษย์เงินเดือนคืออะไร? เสียงเหล่านั้นได้แก่… “ชีวิตลูกจ้างสบายดีอยู่แล้ว อย่าไปดิ้นรนทำธุรกิจส่วนตัว” “ลาออก… มันน่ากลัวเกินไป อย่าเลย…”
เสียงในหัวเหล่านี้แหละที่เริ่มที่จะ “ฉุดชีวิต” ของผม… แน่นอนที่สุดว่าในอดีตนั้นงานประจำได้ช่วยชีวิตผม ช่วยให้ผมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีเงินใช้ทุกๆ เดือน และสามารถผ่อนรถยนต์ ผ่อนบ้าน หรืออะไรก็ตามที่มนุษย์เงินเดือนต้องมี ต้องใช้… แต่บัดนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว… หากเราลอยคออยู่กลางทะเล งานประจำก็เหมือนห่วงยางที่ช่วยชีวิตเราไว้ แต่เราจะลอยอยู่แบบนั้นไปตลอดหรือ?

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน… เราก็เริ่มแก่ตัวลง… ความฝันที่อยากเป็นเจ้าของกิจการกับเขาบ้างก็เริ่มเลือนหาย แต่เสียงในหัวของความเป็นมนุษย์เงินเดือนกลับดังขึ้นเรื่อยๆ!!
กลบเสียงของเจ้าของกิจการเสียหมด… เสียงของเจ้าของกิจการก็คือ “เริ่มต้นได้แล้ว! ไม่เริ่มตอนนี้จะไปเริ่มตอนแก่อายุ 50-60 หรืออย่างไร?” “อย่ากลัวจนเกินไป… เราต้องออกมาทำกิจการของตัวเองได้แล้วนะ!”

เอาชนะตัวฉุดชีวิตซะ!

ตัวฉุดชีวิต… ก็คือ… “งานประจำ” แม้เจ้างานประจำจะเคยให้ความสุขกับเรา ให้โอกาสกับเรา ให้เราได้ประสบการณ์จากการเป็นลูกจ้าง… แต่มันก็จะคอยฉุดเราไม่ให้เราไปไหน…
ผมนึกขอบคุณงานประจำทุกครั้ง เพราะถ้าไม่มีงานประจำ… ผมคงไม่ได้มีเงินมาใช้จ่ายในยามที่ผมยังไม่พร้อมจะเป็นเจ้าของกิจการ… แต่เราจะเป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิตไม่ได้… เราจะต้องก้าวต่อไป… ก้าวใหม่ของเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไร ลูกจ้าง เจ้าของกิจการ แม้แต่นักลงทุน… เราจะต้องทำมันให้ดีที่สุด!!

และผมก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว…

(โปรดติดตามการพูดคุยกับตัวเองเพื่อเปลี่ยนชีวิต กับ “เปลี่ยนตัวเองใหม่ไม่ยาก” นะครับ)

NAIWAENTAMMADA

พัฒนาชีวิตด้วยปัญญา และความดี