ทำเกษตร ให้สำเร็จ กับ นายแว่นธรรมดา

ทำเกษตร ให้สำเร็จ กับ นายแว่นธรรมดา

สำหรับคนทำเกษตรนั้นในภาพนึกคิดของใครหลายคนจะคิดว่าทำเกษตรแล้วต้องยากจน แต่ความจริงแล้วการทำเกษตรยุคใหม่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้ และมั่งคั่งได้ไม่แพ้การทำธุรกิจ หรือทำกิจการอื่นๆ เพราะตัวอย่างแห่งความสำเร็จนั้นมีให้เห็นในต่างประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศไทยเอง ถ้าเราทำเป็น ทำถูก ก็จะกลายเป็นเกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

ลองมาดูกันว่าแนวทางการทำเกษตรมีอะไรให้เลือกบ้าง และน่าสนใจเพียงไร สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะเป็นเกษตรกร หรือผู้ที่ทำเกษตรอยู่ อยากให้มันสำเร็จ

แนวทางแรก “ทำเกษตรแบบผสมผสาน”

การทำเกษตรแบบผสมผสานนั้นเป็นหลักการที่เกี่ยวข้องกับ “เกษตรทฤษฏีใหม่” ที่ถูกถ่ายทอดจากพ่อหลวงของเรา แนวคิดก็คือ การแบ่งโซนพื้นที่ทำเกษตรออกเป็นส่วนๆ ดังนี้

Economy-5

การแบ่งพื้นที่เป็นโซนๆ หากเรามีที่ดินราว 10 ไร่ ทำได้ดังนี้

โซนแรก พื้นที่สำหรับแหล่งน้ำ 30% ถ้าเรามีพื้นที่ 10 ไร่ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ไร่สำหรับเก็บเป็นแหล่งน้ำ โดยแหล่งน้ำนี้นอกจากจะใช้เป็นน้ำเพื่อการเกษตรแล้ว ยังสามารถเลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้ง เสริมได้อีกด้วย

โซนที่สอง ปลูกพืชไร่ พืชสวน พืชผักสวนครัว โซนนี้เราสามารถแบ่งไว้ปลูกพืชไร่ หรือพืชสวน ไว้กินเอง เหลือแล้วจึงแบ่งขายสร้างรายได้

โซนที่สาม “ทำนา” โซนนี้แบ่งออกมา 5 ไร่ เพื่อทำนาปลูกข้าว โดยการปลูกข้าวนั้นควรเน้นเก็บเมล็ดข้าวเปลือกไว้ใช้ในปีต่อๆ ไป และหากเกษตรกรท่านใดมีเครื่องสีข้าวเล็กๆ เอาไว้ใช้ก็สามารถเก็บข้าวไว้กินเอง เป็นทุนทางอาหาร สร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับครอบครัว

โซนที่สุดท้าย “ที่พักอาศัย” โซนนี้แบ่งไว้ปลูกบ้าน บริเวณรอบบ้านก็สามารถเลี้ยงไก่ หรือปลูกพืชผักสวนครัวเล็กๆ ไว้ทานเองได้อีกต่างหาก

ข้อดีของการทำเกษตรแนวนี้ก็คือ เราสามารถพึ่งพาตัวเองได้แทบเต็มร้อย แถมยังใช้ทุนไม่มาก เน้นปลูกไว้กินเองก่อน เป็นคล้ายๆ “ธนาคารอาหาร” เงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็จะใช้น้อยมาก เมื่อขายผลิตผลแล้วจะค่อยๆ มีเงินเหลือเก็บมาขึ้นเรื่อยๆ คนที่ทำจริงจังใช้เวลา 5-7 ปี ก็สามารถเก็บเงินได้มากแล้ว

                แนวทางที่สอง “การปลูกพืชเชิงเดี่ยว”

สำหรับแนวทางที่สองคือการปลูกพืชเชิงเดี่ยว วิธีการโดยทั่วไปก็คือ การปลูกพืชเพียงชนิดเดียวในพื้นที่ของตนเอง วิธีนี้ถ้าทำถูกทางก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เร็ว แต่ถ้าโชคไม่ดี ฟ้าฝนไม่เป็นใจก็มีโอกาสที่จะล้มเหลวสูงเช่นกัน โดยปกติแล้วการลงทุนแต่ละรอบการผลิตต้องใช้เงินทุนค่อนข้างสูง แหล่งเงินทุน ก็ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ หรือ ธกส.

ธุรกิจเกษตร รวยได้การเพาะปลูกด้วยแนวทางปลูกพืชเชิงเดี่ยว ส่วนใหญ่จะต้องใช้สารเคมีในการเพาะปลูก เนื่องจากปลูกพืชเพียงชนิดเดียวกันในจำนวนมากๆ การใช้ปุ๋ยเคมี ใช้สารกำจัดศัตรูพืช ถือเป็นเรื่องจำเป็น ข้อดีของการปลูกพืชเชิงเดี่ยวก็คือ ถ้าเราทำถูกวิธีก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า แต่ข้อเสียก็คือ หากเราโชคไม่ดี ผลผลิตออกมาล้นตลาด ราคาพืชผลก็จะตกต่ำ วิธีแก้ไขก็คือ ควรสำรวจความต้องการของตลาดเอาไว้ก่อนเริ่มต้นลงมือเพาะปลูก หรือควรวางแผนการลงทุนไว้ล่วงหน้าในกรณีที่เกิดสินค้าล้นตลาด แม้แต่การขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยทักษะของเกษตรกรที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวควรมี ได้แก่

  • การวางแผนทางการเงินการลงทุน ควรวางแผนให้รอบคอบ เพราะการกู้เงินมาลงทุนมีต้นทุนทางการเงิน คือ ดอกเบี้ยเงินกู้ หากเกิดข้อผิดพลาดจะเสียหายภายหลัง
  • การวางแผนปลูกพืชตามฤดูกาล ที่ควรศึกษาสภาพตลาดโดยรวมด้วย หากผลผลิตออกมาใช้ช่วงเดียวกันพร้อมๆ กันก็จะเกิดภาวะล้นตลาด
  • การวางแผนการใช้ทรัพยากรน้ำ พืชบางชนิดต้องการน้ำมาก เช่น การปลูกข้าว ถ้าไม่วางแผนการใช้น้ำแล้วไปเจอช่วงน้ำแล้งจะลำบากทีหลัง ควรมีแหล่งน้ำเป็นของตัวเองไว้บ้าง อย่าได้เสียดายพื้นที่เก็บน้ำเลยครับ เพราะยามเกิดปัญหาจะได้เบาใจได้
  • วางแผนกันเงินสำรองยามฉุกเฉิน เรื่องเงินนั้นเราจะวางแผนเฉพาะเงินลงทุนเพียงอย่างเดียวดูเหมือนจะไม่ครอบคลุม ควรวางแผนกันเงินสำรองยามฉุกเฉินไว้ด้วย โดยเงินสำรองควรมีราว 20% ของรายรับทั้งปีจึงจะพออุ่นใจได้ครับ

แนวทางทั้งสองแบบไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความถนัดของเกษตรกรเอง และทั้งสองแนวทางล้วนต้องการการวางแผนล่วงหน้า เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิดจะได้เบาใจได้ เป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกรทุกท่านนะครับ

ธุรกิจเกษตร รวยได้ ไม่ยาก