รีวิวหุ้น GOLD บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

มีเพื่อนๆ ถามมาใน FaceBook เกี่ยวกับหุ้น Gold ผมเลยขออนุญาติรีวิวเล็กๆ ให้พิจารณากันครับ… ลักษณะธุรกิจของ GOLD หรือ Golden Land ก็คือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจให้บริการและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความนี้กรุณา”]

ลักษณะผลิตภัณฑ์ของบริษัท

บริษัท ให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับ High-End โดยเน้นการออกแบบ Concept โครงการแบบ Luxury ในสไตล์ต่างๆ อาทิ Venetian, Moroccoและ Asian Tropical เพื่อสะท้อนตัวตนและรสนิยมที่แตกต่างของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังเน้นการคัดสรรวัสดุที่ได้มาตรฐานโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยระยะยาวของลูกค้าเป็นสำคัญ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมภายในโครงการ และการบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และมั่นใจในการใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด คือการสร้างการรับรู้ตราผลิตภัณฑ์ของบริษัท (Brand Awareness) เพื่อให้ลูกค้าจดจำตราผลิตภัณฑ์ และเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลนั้นๆ โดยช่องทางในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร และการรับรู้ตราผลิตภัณฑ์ มีดังต่อไปนี้

Personal Selling การใช้พนักงานขายแนะนำผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า เพื่อสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งเป็นการติดต่อแบบ Two-Way Communication ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร และการใช้ Advertisingบริษัท มีการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อการตลาดประเภทต่างๆ

สำหรับ Sales & Promotion มีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นการซื้อตามระยะเวลา และประชาสัมพันธ์ถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

ลักษณะลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในกลุ่มบ้านจัดสรร แนวโน้มของการพัฒนายังคงเน้นประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนในทำเลที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มนี้ในแต่ละทำเลสามารถเชื่อมั่นและภาคภูมิใจในการเลือกซื้อโครงการของบริษัท ดังนี้

Golden Legend   ถนนกัลปพฤกษ์ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อมาจากถนนสาทร

Golden Heritage  ถนนราชพฤกษ์ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้ถนนปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี

Golden Nakara  ถนนพระราม 9 – มอเตอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ทางด่วนพระราม 9และAirportLink สถานีทับช้าง

GoldenMonaco ถนนบางนา กม. 8 (วงแหวนตะวันออก) ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และช็อปปิ้งมอลล์ Mega Bangna

และยังมีโครงการที่เป็นอาคารสูงตั้งอยู่ทำเลเมืองอีกพอสมควร ลองเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละโครงการได้ที่นี่ครับ http://www.goldenlandplc.com/ นอกจากนี้บริษัท ยังมีการนำที่ดินของบริษัท มาวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเล เพื่อจัดหาโอกาสในการขยายโครงการเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย

ตัวเลขทางการเงิน

ยอดขายลดลงทุกปี แต่ปีล่าสุด 3 ไตรมาสมียอดขายมากกว่าปีที่แล้วทั้งปีครับ (อันนี้เป็นสัญญานที่ดีครับ) แต่กำไรขั้นต้นยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร Market Cap ณ.ตอนนี้อยู่ระหว่าง 7000 – 8000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี Market Cap เพียง 4000 ล้านบาท กับกำไรที่ทำได้ ตามทฤษฏีแล้วไม่สามารถคำนวน PE ออกมาได้ครับ ถ้าดูที่กำไรสุทธิที่ติดลบติดต่อกันมาหลายปีแล้วถ้าอยากจะลงทุนในหุ้น Gold คงต้องบอกว่าลงทุนแบบลุ้นให้กลับตัว ถ้าต้องการลงทุนจริงๆ ข่าวดีก็คือกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังเป็นช่วงขาขึ้น เพราะในอนาคตอาจมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในกลุ่ม AEC ขึ้นอยู่กับนโยบายบ้านเราว่าจะเอื้อขนาดไหนครับ และเจ้าของคนใหม่ (ตามข่าว) ว่าจะมีิทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อไปยังไง… อย่างไรก็ดีคงต้องศึกษาให้ลึกว่ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจะทำอย่างไรให้พลิกกลับมากำไร มีโครงการอะไรที่ซ่อนอยู่บ้าง และกลุ่มเป้าหมายจากกลุ่มที่ค่อนข้างจะหรูหรา จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร

ข่าวหุ้น GOLD

ข่าวหุ้น UV ของเสี่ยเจริญทำ Tender Offer หุ้น Gold เสี่ยเจริญ ฮุบโกลด์เด้นแลนด์ (GOLD) เบ็ดเสร็จ  หลังส่งนอมินีเข้าถือหุ้น ผ่าน “สุเทพ  โอภาสพาณิชย์” คนสนิท  และดันกองทุนรวมอสังหาฯ เบสท์ ฟอร์จูน ของกลุ่มทีซีซี แลนด์ เข้าถือหุ้นใหญ่  หวังที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างมหาศาล เชื่อมโยงกับธุรกิจอสังหาฯ ส่วนตัวของเสี่ยเจริญ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นในอนาคต ซ้ำรอยกรณีใช้นอมินี ซื้อหุ้น บมจ.เสริมสุข (SSC) หวังที่ดินผืนงาม

 แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เปิดเผยว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี (เสี่ยเจริญ)  ได้กลายเป็นเจ้าของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD โดยซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มตระกูลมหากิจศิริ ช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมา โดยตกลงราคาที่ซื้อไปไม่ต่ำกว่า 6 บาทต่อหุ้น หรือสูงกว่ามูลค่าทางบัญชี (บุ๊คแวลู) ปัจจุบันอยู่ที่ 5.92 บาท  

“เสี่ยเจริญได้เข้าซื้อหุ้น GOLD ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในราคาสูงกว่า 6 บาทต่อหุ้น ไม่ต่ำกว่าบุ๊คแวลูปัจจุบัน ทำให้กลุ่มของเสี่ยเจริญกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GOLD โดยได้สิทธิครอบครองที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสิทธิในการเช่าที่ดินระยะยาว และสนามกอล์ฟขนาดใหญ่อีกหลายแห่งที่ อ.สีคิ้ว จ. นครราชสีมา” แหล่งข่าวกล่าว สำหรับเป้าหมายหลักของเสี่ยเจริญในการเข้ามาซื้อ GOLD เนื่องจากต้องการที่ดิน และสินทรัพย์ในรูปของสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่มหาศาล ภายใต้ บมจ.แผ่นดินทองฯ เพื่อที่จะนำไปต่อยอดกับธุรกิจที่ดำเนินอยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มทีซีซี แลนด์ โดยมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทมีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท  

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GOLD ที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นตัวแทน (นอมินี) หรือมีความเกี่ยวพันกับเสี่ยเจริญอย่างชัดเจน คือ นายสุเทพ โอภาสพาณิชย์ ถือหุ้น GOLD อยู่ 25,649,505 หุ้น หรือคิดเป็น 2.262% เป็นหนึ่งในกรรมการและผู้ถือหุ้นของ บริษัท รัตนคีรี จำกัด, บริษัท ทรงวาดริเวอร์ไซด์ จำกัด และบริษัท เอเชียเบฟ จำกัด

โดยบริษัท รัตนคีรี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 29 กรกฎาคม 2537 ทุน 43,812,500 บาท ประกอบธุรกิจลงทุน นายสุเทพ โอภาสพาณิชย์ ถือหุ้น 99.9% นายประมวล ศรีรัตนา นายสุเทพ โอภาสพาณิชย์ นายศราวุธ เทียนสุวรรณ เป็นกรรมการ

บริษัท ทรงวาดริเวอร์ไซด์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 15 มิถุนายน 2533 ทุน 158,949,000 บาท ประกอบธุรกิจลงทุนในหลักทรัพย์ นายสุเทพ โอภาสพาณิชย์ ถือหุ้น 99.9% นายประมวล ศรีรัตนา นายสุเทพ โอภาสพาณิชย์ นายศราวุธ เทียนสุวรรณ เป็นกรรมการ

บริษัท เอเชียเบฟ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 ธันวาคม 2529 ทุน 53,094,400 บาท ประกอบธุรกิจลงทุนในตราสาร บริษัท วัฒนพัฒน์เทรดดิ้ง จำกัดถือหุ้น 99.9% นายประมวล ศรีรัตนา นายสุเทพ โอภาสพาณิชย์ นายศราวุธ เทียนสุวรรณ เป็นกรรมการ

ทั้ง 3 บริษัทดังกล่าว แจ้งจดทะเบียนอยู่ในที่อยู่เดียวกันด้วย ในเลขที่ 288/21-22 ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ยังมีชื่อของ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้องเบสท์ ฟอร์จูน ถือหุ้นอยู่ 11,421,200 หุ้น หรือคิดเป็น 1.007% ซึ่งกองทุนรวมนี้ เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ ในโครงการพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ซึ่งมีความเกี่ยวโยงจากกลุ่ม ทีซีซี แลนด์ บริหารและดูแลอยู่

อีกทั้งยังมีชื่อของ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิตี้ ฟู้ด จำกัด ถือหุ้น GOLD อยู่ 14,009,500 หุ้น หรือคิดเป็น 1.235% และชื่อของนายณัฐพล จุฬางกูร แห่งซัมมิทกรุ๊ป จำนวน 8 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.705%

นอกจากนี้ยังปรากฏรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่ม Well Base Development Limited ผ่านไทยเอ็นวีดีอาร์ จำนวน 282.36 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 24.89%   ส่วน Rock Key International Limited  ถือผ่าน UOB Kay Hian Private Limited vud 281.316 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 24.80%

รายชื่อ ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ GOLD มีดังนี้ พานอรามา กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ตั้งอยู่ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 2,096 ไร่  ที่ดินพร้อมอาคารโรงแรม  อ.เชียงของ จ.เชียงราย 15 ไร่ ที่ดิน จ.เชียงราย ไม่ต่ำกว่า 120 ไร่ ที่ดิน จ.กระบี่ 118 ไร่ ที่ดิน จ.ประจวบฯ 212 ไร่ โครงการโกลเด้น เลเจ้นด์ ถ.กัลปพฤกษ์ 57 ไร่ และโครงการอื่นๆ อีกจำนวนมาก

* GOLD ผลประกอบการยังขาดทุน แต่สินทรัพย์หลายรายการมีศักยภาพทำกำไร

ในงวด 1H55 GOLD มีผลประกอบการขาดทุนรวม 229.6 ล้านบาท ขณะที่โครงสร้างการเงินมีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย 3.82 พันล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ 6.68 พันล้านบาท (Book Value 5.89 บาท) คิดเป็นอัตราส่วน Net Gearing 0.46 เท่า ถือว่าต่ำว่าแข็งแรงและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมมาก จากตัวเลขดังกล่าวเห็นได้ว่าขีดความสามารถในการทำกำไรของ GOLD ปัจจุบันอยู่ในเกฑณ์ที่ค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อพิจารณาเข้ามาในรายละเอียดของสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่แล้วพบว่ามีหลายรายการที่น่าสนใจ และสามรถที่จะสร้างให้เกิดศักยภาพการทำกำไรให้กับบริษัทได้ในระยะยาวหากมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้โครงสร้างรายการสินทรัพย์ของ GOLD มูลค่ารวม 12.20 พันล้านบาท กว่า 86% ประกอบด้วย 4 รายการหลัก ได้แก่ โครงการระหว่างพัฒนา 714 ล้านบาท , อสังหาฯ เพื่อการลงทุน 6.15 พันล้านบาท, สิทธิการเช่า 1.99 พันล้านบาทและ ที่ดินอาคาร, อุปกรณ์ 1.65 พันล้านบาท โดย
รายการสินทรัพย์ที่เด่น และมูลค่าสูง อาทิเช่น ที่ดิน ซ.ไผ่สิงโต 8-3-75.28 ไร่ มูลคา 948ล้านบาท, ที่ดินบางกะปิ 31-0-70 ไร่ มูลค่า 692 ล้านบาท, ที่ดินโครงการแกรนด์ โมนาโค 110-1-63.6 ไร่ มูลค่า 638 ล้านบาท, อาคาร ดิ แอสคอท สาทร แบงคอก (สาทรใต้) 1.12 พันล้านบาท, โรงแรมดับบลิว แบงคอก (นราธิวาสราชนครินทร์) 2.14 พันล้านบาท และที่ดินสนามกอล์ฟ  พานอรามา กอล์ฟ แอนด์คันทรีคลับ 2,096-2-11 ไร่ มูลค่า 638 ล้านบาท ทั้งนี้มูลค่าสินทรัพย์ดังกล่าวแสดงเป็นมูลค่าตามบัญชี

ดังนี้การที่ UV ได้เข้าทำการเสนอซื้อหุ้น GOLD ที่ระดับราคา 5.50  บาท/หุ้น จึงถือเป็นระดับราคาที่ไม่สูง และหากเมือมีการนำมาบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนาโครงกการแล้ว ก็น่าจะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับ UV ได้ในระยะยาว (ที่มา… ข่าวหุ้น)

ผมขอรีวิวคร่าวๆ เท่านี้ครับ (หวังว่าคงมีประโยชน์บ้าง ไม่มาก ก็น้อย) ส่วนตัวผมเองก็ไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกของหุ้นตัวนี้มากนัก และเนื้อหาบางส่วนก็เป็นเพียงข้อคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดพิจารณาให้รอบคอบนะครับ ขอบคุณครับ

(นายแว่นธรรมดา)

[/premium]