รู้สู้เฟ้อ ตอนที่ 3 "ทัศนคติทางการเงินที่ถูกต้อง คืออะไร?"
เคยได้ยินกันบ้างมั้ยครับว่า “คนรวยต้องโกงจึงจะรวย” หลายคนคงเคยได้ยินประโยคข้างต้น แต่สำหรับผมแล้วมันมีส่วนถูกอยู่ไม่น้อยเลยล่ะครับ ซึ่งความจริงแล้วมันก็ไม่ถูกต้องหมด 100 % นะครับ แต่ทว่ายังมีอีททัศนะคติหนึ่งที่นอกจากจะไม่ถูกต้องแล้ว ยังปั่นทอนกำลังใจเราได้มากโข นั่นก็คือ…
“ทำความดี ทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีวันรวย”
ผมเข้าใจว่าทัศนคติอันที่สองนั้นผิดอย่างร้ายแรงครับ สำหรับผมแล้วความดี หรือการทำดีนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นความมั่งคั่งได้ครับ อยากรู้หรือเปล่าครับว่าทำได้ยังไง ลองติดตามต่อได้เลยครับ
[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]
ทัศนะคติที่ผิดๆ ทางการเงินส่งผลอะไรต่อเราบ้าง
จากทัศนคติที่ผิดๆ ที่ผมได้กล่าวมานั้นหากเราทิ้งไว้นานวันมันจะส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของเราครับ ผมใช้คำว่า “ผลที่ร้ายแรง” แสดงว่ามันย่อมไม่เป็นผลดีแน่ๆ
เพราะอะไรน่ะหรือ… เพราะทัศนคติที่ว่า “คนรวยต้องทำสิ่งที่ไม่ดีจึงจะรวย” จะส่งเสริมให้เราทำสิ่งผิดๆ เพื่อความร่ำรวยครับ ซึ่งเราอาจจะรวยจริง แต่ผลที่ตามมาจากการทำสิ่งที่ผิดอาจทำให้ความร่ำรวยของเราหายไปอย่างรวดเร็วจนเราคาดไม่ถึงครับ
หรือทัศนะคติที่ว่า “เป็นคนดี ไม่มีทางรวย” อันนี้ยิ่งบั่นทอนกำลังใจเราเข้าไปใหญ่ ผมคิดว่าทัศนะคติทั้งสองแบบนั้นใช้ไม่ได้ครับ
แล้วทัศนะคติแบบไหนจึงจะดีสำหรับการเป็นคนที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยล่ะ อยากรู้มั้ยล่ะครับ ติดตามอ่านหัวข้อต่อไปเลยครับ …
ทัศนคติที่ดีทางการเงิน 7 ประการ
ทัศนะคติที่ดีมีอะไรบ้างเรามาดูไปพร้อมๆ กันเลยครับ
1. ควรตั้งเป้าหมายทางการเงินของชีวิตเอาไว้ เพราะการที่เราใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างไร้เป้าหมายนั้นมันจะทำให้เราเดินแบบไร้ทิศทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายทางการเงิน เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับชีวิตเลยล่ะครับ คงไม่มีใครอยากแก่แล้วกลับกลายเป็นภาระให้กับลูกหลานใช่มั้ยล่ะครับ แบบนี้เราควรที่จะเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายทางการเงินเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าครับ
2. ตั้งเป้าหมายแล้วไม่ควรสนใจเป้าหมายมากจนเกินไป เคยกันบ้างมั้ยครับ อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากมีโน่น อยากมีนี่ แล้วนอนไม่หลับจิตใจกระสับกระส่าย ใจไม่สงบ แบบนี้เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้จะบรรลุได้อย่างไรครับ การมีไฟที่จะลุกขึ้นมาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จเป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากมากจนเกินไปอาจทำให้เราสะดุดขาตัวเองได้ เรียกว่า รีบร้อนจนเสียการณ์ครับ ทัศนะคติที่สนใจเป้าหมายมากเกินไปควรจะหลีกเลี่ยงนะครับ
3. มุ่งความสนใจไปที่ “วิธีการที่จะบรรลุเป้าหมาย” แทน … ใช่แล้วครับหากวิธีการถูกต้อง เป้าหมายก็จะสำเร็จเองโดยอัตโนมัติ โดยเราไม่ต้องร้อนใจอะไรเลย
4. หมั่นปรับปรุงวิธีการให้ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ หากเราคิดว่าวิธีการเราเจ๋งสุดๆ แล้ว ต้องระวังจะสะดุดขาตัวเองแล้วล่ะครับ การมั่นใจเป็นเรื่องดี แต่หากมั่นใจมากจนเกินไปถือเป็นความประมาทครับ ทางที่ดีควรคิดหาวิธีการปรับปรุงวิธีการให้ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า
5. เชื่อมั่นในตนเอง เชื่อมั่นในเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งเอาไว้ หากเราไม่เชื่อว่าเราจะสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้แล้วเราจะทำไปทำไมครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากมีอิสระภาพทางการเงิน ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้ยามเกษียณ แล้วเราไม่เชื่อว่าเราจะทำได้จริง ผมเข้าใจว่าโอกาสที่จะสำเร็จย่อมมีน้อยกว่าคนที่เชื่อมั่นว่าสามารถทำได้แน่ๆ ครับ
6. พยายามอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ ไม่หลงลืมมันไปเสียก่อน … เคยเจอมั้ยล่ะครับ คนที่ตั้งเป้าหมายด้วยใจที่มุ่งมั่นในวันนี้ กลายเป็นคนท้อแท้ง่ายๆ ในวันต่อมา หรือลืมมันไปเลยในวันถัดๆ ไป ทัศนะคติแบบนี้คงจะสำเร็จยากยิ่งกว่ายากครับ เราไม่ควรหลงลืมจุดมุ่งหมายในใจของเรา และพยายามอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จให้ถึงที่สุดครับ
7. รู้จักอดทน และรอคอย … ใครหลายคนคงคิดอยากจะร่ำรวยเร็วๆ มั่งคั่งเร็วๆ แต่ถ้าไม่รู้จักอดทน และรอคอย ก็จะทำให้เราใช้วิธีการที่ผิดๆ ซึ่งจะส่งผลเสียหายภายหลังครับ คำว่ารวยเร็ว รวยฉับไว ฟังดูดี แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่อย่างงั้นทุกคนบนโลกคงร่ำรวยกันหมด หากเรามั่นใจในวิธีการที่ถูกต้องของเรา มั่นใจในเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ แค่อดทน และรอคอย “ความสำเร็จ” ก็จะเป็นของเรา ไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับทัศนะคติ 7 ประการทางการเงิน ลองสำรวจตัวเองดูครับว่ามีครบทุกข้อหรือเปล่า ถ้ามีครบ หรืออย่างน้อยมีบางข้อ ผมเข้าใจว่า “ความมั่งคั่ง” เริ่มจะอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณแล้วล่ะครับ
[/premium]
“เปิดรับสมัครสมาชิก”
เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดาครับ ใครยังไม่สมัครต้องรีบหน่อยนะครับ ของแถมล็อตนี้ใกล้หมดละครับ สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก
