รวมมิตรหุ้นทีวีดิจิตอล กับ กรณีศึกษาปรากฏการณ์ “ปลาเล็กกินปลาใหญ่”

ใกล้สิ้นปีกันแล้วปีที่ผ่านมาผมขอยกให้เป็นปีของหุ้นร้อนอย่าง “พลังงานทดแทน” แต่ปีหน้า 2558 หุ้นที่จะร้อนแรงแซงทางโค้งอาจเป็นหุ้นในกลุ่ม “ทีวีดิจิตอล” เพราะหากธุรกิจนี้เริ่มเข้าที่-เข้าทาง ก็จะมี “Story” มาให้เล่น และทำให้เกิดกระแสในอนาคตก็เป็นไปได้ครับ บทความนี้ผมจะขอสรุปหุ้นในกลุ่มทีวีดิจิตอลที่น่าจบตามองในปี 2558 ให้เพื่อนๆ ได้พิจารณากัน (NMG RS WORK AMARIN และ SLC) พร้อมแล้วลุยกันเลยครับ

Growth TV Digital

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

“หุ้นกลุ่มเนชั่น”

หุ้น NMG เป็นหุ้นที่ผมเคยรีวิวเอาไว้ตามนี้ (คลิ๊กอ่านรีวิวหุ้น NMG) เวลาผ่านไปหลังจากประมูลทีวีดิจิตอลได้พิสูจน์ว่ากลุ่มเนชั่นมีความแข็งแกร่งในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ด้านข่าวในอันดับต้นๆ นักข่าวหลายคนในทีวีช่องอื่นๆ วันนี้ก็ล้วนเคยผ่านการทำงานที่เนชั่นมาก่อน เมื่อตอนเนชั่นอยู่ในฐานะของทีวีดาวเทียมนั้นมีอัตราค่าโฆษณาหลักพัน แต่ปัจจุบันขยับเป็นหลักหมื่นต่อนาที และกำลังจะขยับขึ้นไปได้อีกในอนาคตครับ ถ้าจะให้แบ่งหุ้นในกลุ่ม “เนชั่น” จะเราจะพบว่ามีหุ้น 3 ตัว ได้แก่ NMG NBC และ NINE

ngหากจะเจาะเฉพาะหุ้น NMG ปัจจุบัน NMG  มีรายได้ประมาณ 2-3 พันล้านบาทต่อปี มีกำไรราว 200 ล้านบาทต่อปี รายได้มากขึ้น 3-4 เท่าในอีก 5 ปี โดยหวังว่ามันจะมาจากธุรกิจทีวีดิจิตอล และรายได้จากทีวีดิจิตอลจะกลายมาเป็นรายได้หลักของบริษัทในอนาคตแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม NMG จะต้องจ่ายค่าใบอนุญาตช่องดิจิตอล 2 ช่อง แต่จากการเพิ่มทุนที่ผ่านมากลุ่มเนชั่นจะมีเงินเพียงพอในการจ่ายค่าใบอนุญาตและไม่น่าจะต้องเพิ่มทุนอีกครับ มุมมองต่อผลประกอบการในปีหน้า 2558 ก็มีแนวโน้มดูดีขึ้นจากค่าโฆษณาที่จะปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้หากเราพิจารณาหุ้นอีกตัวก็คือ บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ หรือ NINE ที่ NMG ถือหุ้นอยู่ 83.76% ก็จะเริ่มได้รับส่วนแบ่งรายได้จาก บมจ. อสมท หรือ MCOT หลังจากที่ MCOT เปิดตัวช่องทีวีดิจิตอล MCOT Family ทำให้ NINE ก็จะมีกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอนในปีหน้าครับ

“หุ้น SLC

ข่าวร้อนในห้วงเวลานี้ที่เกี่ยวข้องกับวงการสื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ทีวีดิจิตอล” คงหนีไม่พ้นบริษัทเล็กๆ อย่าง SLC หรือ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นในเครือเนชั่น หรือ NMGกว่า 12% และยังซื้อหุ้นในกลุ่มสื่อสารอีก 3 แห่ง ได้แก่ GMM แกรมมี่ ทีนิวส์ มติชน และอื่นๆ สำหรับนักลงทุนแล้วดีลนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะการเข้าถือหุ้น NMG ในครั้งนี้มีหลาย “ข่าวลือ” ที่ถูกปล่อยออกมา แต่หากเรายึดหลักที่ผู้บริหารอยากจะทำให้กลุ่มของ SLC เป็น Holding Company คือเป็นหุ้นที่ถือหุ้นบริษัทในกลุ่มสื่อสาร และข้อดีของการซื้อกิจการในสื่อทีวีดิจิตอล ก็เพื่อ “เพิ่มอำนาจต่อรองค่าโฆษณา” เพราะหาก SLC มีธุรกิจทีวีดิจิตอลในกลุ่มมากๆ (SLC NMG GMM มติชน) ก็จะสามารถต่อรอง “ค่าโฆษณา” กับลูกค้าได้มากขึ้นนั่นเองครับ เป็นอะไรที่ก็คงต้องรอพิสูจน์กันต่อไปครับ ผมขอเรียกปรากฏการณ์ที่หุ้นขนาดเล็กคือ SLC เข้าถือหุ้นขนาดใหญ่กว่าคือ NMG ว่าเป็นปรากฏการณ์ “ปลาเล็กกินปลาใหญ่”

“หุ้น RS

ปัจจุบันหุ้น RS ต้องถือว่า “ติดลมบน” ไปพอสมควรแล้วครับ โดยการเติบโตในปี 2558 นั้นจะสูงขึ้นจากการที่สามารถปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นจากหลักพันกลายเป็นกว่า 5 หมื่นบาทต่อนาที และสัดส่วนจำนวนผู้ชมของช่อง 8 นั้นก็ติด 1 ใน 5 อันดับอย่างต่อเนื่อง (ไม่รวมช่องทีวีสาธารณะ) นอกจากนั้นกลุ่ม RS ยังมีช่องทีวีดาวเทียมที่สามารถเพิ่มค่าโฆษณาหลักพัน ไปเป็น 1 หมื่นบาทต่อนาทีได้ในปีหน้า ทำให้รายได้น่าจะเติบโตขึ้นกว่า 70% ในปี 2558

อย่างไรก็ตามธุรกิจแผ่นเพลงของทางค่าย RS นั้นหดตัวลงเนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป เด็กยุคใหม่ชอบของโหลดในราคาถูกมากกว่าที่จะซื้อแผ่นเพลงราคาแพง แต่ทาง RS ก็ปรับตัวไปหารายได้จากการโฆษณาผ่านยูทู๊ปแทน เบื้องต้องทำรายได้ราว 4-5 ล้านบาทต่อเดือนและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตครับ ข้อสรุปของหุ้น RS จึงเป็นหุ้นที่ดีไปแล้ว แต่ก็สามารถจะดีขึ้นได้อีกจากการขยายตัวไปเรื่อยๆ ของอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลนั่นเองครับ

“หุ้น WORK

การเปลี่ยนแปลงของ Work Point ในปีหน้านอกจากการปรับค่าโฆษณาได้สูงขึ้นเหมือนกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ผมได้รีวิวไปแล้วก็คือการที่ work นั้นจะดึงรายการทีวีที่ทำไว้ที่ช่อง 5 และ ช่อง 9 กลับมาออกอากาศในช่อง work point TV แทน และจะส่งผลทันทีเนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเช่าช่องสัญญาณดังกล่าวได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตามทางกลุ่ม Work นั้นจะมีการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับกองทุน Mindo (ไม่เกิน 32 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 33.50 บาทต่อหุ้น) จะทำให้กลุ่มของ “เสี่ยตา” มีเงินเข้ามา “เสริมทัพ” อีกกว่า 1000 ล้านบาทครับ

สำหรับการปรับค่าโฆษณาของ Work นั้นในปี 2558 จะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีกราว 10-20% หรืออาจทำได้เฉลี่ย 2.5 หมื่นบาทต่อนาที หรือสูงสุดอาจทำได้ 1.8 แสนบาทต่อนาที และในปี 2558 Work จะมีรายการเหลือในช่องฟรีทีวีเพียง 2 รายการ ได้แก่ ชิงร้อยชิงล้าน และ The Angel (กับช่อง 3) ทำให้เงินรายได้จากส่วนนี้จะเหลือเพียง 400 ล้านบาทต่อปี สำหรับมุมมองของผมต่อหุ้น work นั้นถือว่าค่อนข้างจะเต็มมูลค่า ซึ่งยังพอมี upsize จากต้นทุนที่จะลดลงในอนาคต และอาจไปได้อีกในอนาคตหากอัตราโฆษณาสามารถปรับได้สูงขึ้นกว่าเดิมที่เคยทำได้ครับ

“หุ้น AMARIN

หุ้นตัวสุดท้ายที่ผมนำมารีวิวในบทความนี้ก็คือ AMARIN ที่ผมเคยทำรีวิวเอาไว้ครั้งที่แล้ว (อ่านหุ้น AMARIN คลิ๊กที่นี่) สำหรับมุมมองของผมเข้าใจว่าหุ้น AMARIN นั้นมี Upsize อีกพอสมควรหากธุรกิจทีวีดิจิตอลเข้าที่เข้าทาง บวกกับธุรกิจโรงพิมพ์ และร้านหนังสือที่อยู่ในภาวะทรงตัว เดิมทีหุ้น AMARIN ต้องถือเป็น “หุ้นปันผล” แต่การแตกไลน์มาทำธุรกิจทีวีดิจิตอลถ้าลงตัวแล้ว บวกกับธุรกิจหนังสือเดิม สองธุรกิจบวกกันราคาหุ้นในอนาคตน่าจะไปได้อีกครับ

TV Digital compare 2015

ข้อสรุปของการลงทุนในหุ้นกลุ่มทีวีดิจิตอล

สำหรับหุ้นกลุ่มนี้ผมเข้าใจว่ามันกำลังจะกลับมาดีในอนาคตครับ แต่หุ้นแต่ละตัวก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกัน ผมลองเอาตัวเลขมาเปรียบเทียบกันดูสำหรับหุ้น 5 ตัวที่น่าสนใจเราก็จะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าตัวไหนที่ดีแล้ว และราคาเหมาะสม ตัวไหนที่ขึ้นไปรับข่าวค่อนข้างมากแล้ว และตัวไหนที่หุ้นยังไม่ขึ้น ซึ่งกำลังจะดีในอนาคต ผมขอจบการรีวิวหุ้นของปีนี้ 2557 ด้วยบทความชิ้นนี้ก็คือการเปรียบเทียบหุ้น 5 ตัวในกลุ่มทีวีดิจิตอลที่จะ “ร้อนแรง” ในปีหน้า ใครที่คิดว่าหุ้นขึ้นมาเยอะแล้ว ลองดูกลุ่มนี้ดูครับ เพราะบางหุ้นในกลุ่มนี้บางตัวอาจเป็น “หุ้นหลายเด้ง” ในอีก 2-3 ปีต่อจากนี้ไปก็ได้ครับ ลองพิจารณากันดูนะครับ

สำหรับปีนี้ 2557 ใครที่ลงทุนแล้วยังไม่ได้ตามเป้าหมายที่เป็นตัวเลข แต่ในเรื่องของการลงทุนแล้ว เราได้ประสบการณ์ที่ “ล้ำค่า” ทดแทนไปแล้วครับ ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จตามเป้าผมก็ขอยินดีด้วยครับ ส่วนปีใหม่ 2558 ผมขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีความสุขตลอดเส้นทางแห่งความมั่งคั่งที่หลายท่านกำลังสร้างเพื่อตนเอง และครอบครัว ขอให้มีความสุขสุขภาพแข็งแรงตลอดปี และตลอดไปนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดา “พวงกุญแจ นกฮูกนำโชค” สัญญาลักษณ์แห่งภูมิปัญญา และความโชคดีร่ำรวย สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา”

มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ…

เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ
http://naiwaenstore.com/store/how-to-order/

Naiwaentammada Shop