คว้ากำไรงามๆ จากหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนกันเถอะ!

ตลาดหุ้นช่วงที่ผ่านมาต้องถือว่าเป็นปีของหุ้นพลังงานทดแทนก็ว่าได้ครับ แต่ทว่าหุ้นพลังงานทดแทนนั้นจะเป็น “ดาวเด่น” ต่อจากนี้ไปหรือเปล่านะ? สำหรับคนที่คิดจะลงทุนในหุ้นประเภทพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด บทความนี้มีคำตอบครับ ติดตามกันเลยครับ!

Power Plant

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

ตลาดหุ้นปีที่ผ่านมาตลอดจนต่อจากนี้ไปนั้นแทบจะเป็นปีทองของหุ้นพลังงานทดแทน หุ้นที่เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าเกี่ยวกับพลังงานทดแทนขึ้นกันแบบไม่ลืมหูลืมตา สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หุ้นกลุ่มนี้คงจะยังไม่หยุดนิ่ง จนกว่า การออกใบอนุญาตการตั้งโรงงานไฟฟ้าจากรัฐบาลจะจบลง การตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนนั้น เทคโนโลยี เป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น คือ วัตถุดิบที่จะป้อนโรงไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่น

1) โรงไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ – ต้นทุนวัตถุดิบเป็นศูนย์ ไม่มีปัญหาเรื่องการขนส่ง แต่มีปัญหาความไม่แน่นอนเรื่องของวัตถุดิบที่ได้รับ เนื่องจากกำหนดสภาพความแรงของแสงอาทิตย์ไม่ได้

2) โรงไฟฟ้าพลังลม – ต้นทุนวัตถุดิบเป็นศูนย์เช่นกัน ไม่มีปัญหาเรื่องการขนส่ง แต่มีปัญหาความไม่แน่นอนของวัตถุดิบที่ได้รับ เนื่องจากกำหนดความเร็วแรงของลมไม่ได้

3) โรงไฟฟ้าชีวมวล – ต้นทุนวัตถุดิบไม่เป็นศูนย์ ราคาต้นทุนอาจจะสูงขึ้นในอนาคต ถ้าโรงไฟฟ้าชนิดนี้มีมากขึ้น โรงไฟฟ้าควรจะใกล้แหล่งวัตถุดิบเพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องค่าขนส่ง

4) โรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะ – ต้นทุนวัตถุดิบไม่น่าจะสูงมาก เนื่องจากขยะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ บางครั้งเจ้าของขยะ เช่นโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องจ่ายเงินให้ผู้รับจำกัดขยะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงไฟฟ้าจากขยะ ถ้าอยู่ใกล้แหล่งขยะจะเป็นการดี เพื่อลดค่าขนส่ง แต่หลายๆ ครั้ง ค่าขนส่งจะถูกบวกในค่าบริการรับกำจัดขยะแล้วนั่นเองครับ

รวยได้ไม่ต้องลุ้น coverแนวคิดการลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต้องดูอะไรบ้าง?

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าการลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนนั้นเราไม่ควรสุ่มเข้าไปลงทุนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะหากพลาดพลั้งจะต้องเจ็บตัวอย่างหนัก สิ่งที่เราควรคำนึงถึง สำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ไม่ใช่ตัวเลขทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องพิจารณาศึกษาอะไรบ้าง มาดูกันครับ

1 ต้องศึกษาเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตโรงไฟฟ้า

อันดับแรกเราต้องเข้าใจเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตโรงไฟฟ้าเสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตย์นั้นเจ้าของโรงไฟฟ้าเลือกใช้แผงแบบใด มีความทนทานได้นานกี่ปี เพราะบางรายเลือกใช้แผงโซล่าร์เซลล์ที่ทนทานไม่เกิน 10 ปีเท่านั้นเนื่องจากระบบ adder ของโรงไฟฟ้าที่จะชดเชยให้เพียงไม่เกิน 10 ปีแรก แต่ในช่วงหลังระบบ adder อาจถูกทดแทนด้วยระบบใหม่ๆ ที่ต้องใช้แผงโซล่าร์ที่มีความทนทานสูง หรือแม้แต่บางรายไม่ได้ใช้แผงโซลาร์ ใช้เพียงกระจกแบบพิเศษ และความร้อนจากแสงอาทิตย์มาทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า แม้ต้นทุนอาจดูไม่แพง แต่ความคุ้มค่านั้นอาจจะสู้แผงโซลาร์โดยตรงไม่ได้ครับ

2 ต้องศึกษามาตรการชดเชยของภาครัฐ

แน่นอนที่สุดว่าปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนยังมีต้นทุนที่ค่อนข้างจะสูง ถึงสูงมาก ทำให้ภาครัฐต้องชดเชยต้นทุนของภาคเอกชน โดยระบบเดิมนั้นคือ adder แต่ระบบใหม่นั้นภาครัฐเปลี่ยนนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากระบบ adder เป็น Feed-in-Tariff หรือ FiT ทำให้เกิดจุดคุ้มทุนที่เปลี่ยนไปนานขึ้น แต่สม่ำเสมอขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊กอ่านที่นี่ นักลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นนะครับ

3 ต้องศึกษาเปรียบเทียบกับหุ้นที่ทำกิจการใกล้เคียง

การซื้อหุ้นโดยไม่เปรียบเทียบ ก็เหมือนกับซื้อของโดยไม่คำนึงถึงว่ามันจะถูกหรือแพงจนเกินไป จะมีประโยชน์อะไรครับที่เราจะซื้อรถอีโค่คาร์ ในราคารถเบ็นซ์ ผมต้องเปรียบกันขนาดนี้เลย เนื่องจากหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ณ.ปัจจุบันนั้นแพงจริงๆ การเปรียบเทียบเราต้องศึกษาอนาคตของกิจการ ดูว่ากิจการเหล่านั้นมีเงินทุนมาสร้างโรงไฟฟ้าหรือไม่ มีสภาพคล่องหรือเปล่า? หากไม่มี… เตรียมตัวโดนเพิ่มทุนได้เลยครับ!

4 ต้องศึกษาความเป็นไปได้ของแต่ละโครงการให้ชัดเจน

เพราะการสร้างโรงไฟฟ้านั้น นักลงทุนสามารถศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการได้ค่อนข้างชัดเจน และทำนายกำไรในอนาคตได้ไม่ยาก วิธีการก็คือ เราต้องหมั่นหาข้อมูลโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง ข้อมูลหลักๆ ได้แก่ ต้นทุนการสร้างโรงไฟฟ้า กระแสเงินสดที่จะเข้ามาหลังเดินการผลิตไฟฟ้า ระยะเวลาการผลิตไฟฟ้าในรอบ 24 ชั่วโมง การหยุดซ่อมบำรุงประจำปีมีหรือไม่? และจะคืนทุนเมื่อไร? ข้อมูลเหล่านี้หากเราขยันศึกษาคงไม่เกินกำลังแน่นอนครับ หรือมองหาข้อมูลจากเว็บนายแว่นธรรมดา ก็คลิ๊กที่นี่ครับ ผมจะทยอยนำข้อมูลมาเสริฟให้อย่างต่อเนื่องกันเลยทีเดียว

5 ศึกษาแหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า

ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญเนื่องจากโรงไฟฟ้าบางประเภทจำเป็นต้องอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ยกตัวอย่างเช่น โรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนย์เปียร์ ที่นำมาหมักให้เกิดก๊าซไปเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า นักลงทุนต้องศึกษาให้รอบด้านว่าวัตถุดิบนั้นสามารถป้อนเข้าสู่โรงงานได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ และหากขาดแคลนบริษัทมีแผนสำรองอย่างไร มีวัตถุดิบอื่นๆ ทดแทนหรือไม่? เป็นต้น

6 ข้อสุดท้ายก็คือ การศึกษาผลกระทบในด้านต่างๆ

ผลกระทบในด้านต่างๆ ได้แก่ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ข้อกฎหมาย แม้กระทั่งการเมืองท้องถิ่น เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อกิจการทั้งสิ้นครับ ต้องศึกษาให้รอบด้านก่อนตัดอกตัดใจลงทุนจริงๆ นะครับ

อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะยังคง “หอมหวาน” และน่าสนใจต่อจากนี้ไปตราบเท่าที่รัฐบาลยังต้องการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากขึ้นไปอีก สิ่งที่ต้องระวังก็คือ “กระแสการเก็งกำไร” ที่มีสูงมากในหุ้นกลุ่มนี้ อย่าประมาท และคิดง่ายๆ โดยเด็ดขาดครับ! หากมีข่าวสาร หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมผมจะนำมารายงานให้เพื่อนๆ ได้รับทราบกันในบทความต่อๆ ไปนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีเพื่ออ่านบทความเจาะลึกหุ้นก่อนใครแบบ Exclusive อ่านรายละเอียดการสมัครที่นี่ครับ http://www.naiwaen.com/?page_id=3131 โดยสมาชิกจะได้รับหนังสืออีบุ๊กส์ฟรี 1 เล่มจาก “ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา” มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ… เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ
http://naiwaenstore.com/store/how-to-order/

อัตราสมาชิกนายแว่นธรรมดา