หาหุ้นโตเร็ว สไตล์วีไอ “สัญญาณบอกว่าหุ้นโตเร็ว”

หาหุ้นโตเร็ว สไตล์วีไอ “สัญญาณบอกว่าหุ้นโตเร็ว”

การเป็นนักลงทุนหุ้นโตเร็วนั้นบางครั้งต้องอาศัยความอดทนค่อนข้างสูง เนื่องจากกว่าที่เราจะหาหุ้นโตเร็วตัวนั้นเจอ เมื่อเราลงทุนแล้วหุ้นอาจไม่ขึ้นเร็วอย่างที่เราคิด และอาจทำให้เราต้องสับสนวุ่นวายใจพาลคิดไปว่า… สิ่งที่เราเชื่อมันถูกต้องหรือไม่ แบบนี้เราลองมา Check List กันดูอีกทีว่า อะไรที่เป็นสัญญาณบอกว่าหุ้นจะโตเร็ว

vi-cover-02

            สัญญาณแรก “ยอดขายปรับตัวสูงขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

สิ่งแรกที่จะมาตกกระทบกับกิจการ และเป็นตัวบ่งบอกว่าหุ้นจะโตเร็วมักจะมาจากยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้น และต้องสูงขึ้นได้อีกในอนาคต นักลงทุนหุ้นโตเร็วมักจะมองหาหุ้นที่เขาคิดว่าในอนาคตถ้าผู้คนที่ใช้บริการสินค้าของบริษัทมีรายได้สูงขึ้น ก็จะใช้จ่ายกับสินค้า และบริการนั้นๆ มากขึ้น มาใช้ซ้ำบ่อยๆ หรือคนที่เริ่มมีรายได้สูงขึ้น ก็อยากมาใช้สินค้า และบริการเหล่านั้น เพราะสินค้าเหล่านั้นมีแบรนด์ หรือเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ใช้ไม่ได้ เรียกว่า มีความได้เปรียบการแข็งขันอย่างยั่งยืน หรือ Durable Competitive Advantage (DCA) นั่นเอง กิจการที่มียอดขายเติบโต และเราต้องมองออกด้วยว่าอนาคตจะยังคงเติบโต กิจการนั้นจะน่าสนใจสำหรับนักลงทุนหุ้นโตเร็วเสมอ

            สัญญาณที่สอง “ต้นทุนขายลดต่ำลง หรือโตช้าลง”

ถ้ารายได้เพิ่มขึ้น และต้นทุนขายลดลง แน่นอนที่สุดว่ากำไรจะเติบโตขึ้น แต่สิ่งที่นักลงทุนหุ้นโตเร็วต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือ ต้นทุนบริหารของกิจการ ถ้าต้นทุนบริหารของกิจการโตช้า คือ โตตามยอดขายที่เติบโตอย่างเหมาะสมตามปกติ แบบนี้จะยิ่งเป็นสัญญาณดี เมื่อต้นทุนขายลดต่ำลง หรือโตช้าลง จนโตไม่ทันยอดขายที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นจะเริ่มสะท้อนสิ่งนี้ และเราต้องเฝ้าติดตามไม่ให้คาดสายตาเลยทีเดียว

            สัญญาณที่สาม “กำไรขั้นต้นเติบโต”

เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้นทุนขายโตช้ากว่ายอดขาย จะทำให้กำไรขั้นต้นเริ่มสูงขึ้น กำไรขั้นต้นนี้นักลงทุนหุ้นโตเร็วจะใช้ EBITDA หรือ คือ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย โดยมีสมการดังนี้

EBITDA = ยอดขาย – ต้นทุนขาย – ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร + ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย

โดยปรกติค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายจะอยู่ในต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายสามารถหาได้จากงบกระแสเงินสดในรายการ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน เราอาจจะอนุโลมได้ว่า EBITDA เท่ากับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow) ถ้าค่านี้เริ่มเติบโต และเราสามารถทำนายได้ว่ามันจะเติบโตเพิ่มขึ้น นั่นคือข่าวดีสุดๆ

สัญญาณที่สี่ “ติดตามค่า EV/EBITDA

เมื่อนักลงทุนโตเร็วเริ่มติดตามหุ้นตัวหนึ่งที่ดูดีมีอนาคต แล้วรู้ว่า EBITDA โตขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ ต้องหาค่าของ EV/EBITDA โดยความหมายแต่ละตัวมีดังต่อไปนี้

EV = Enterprise Value = Market cap. + Net debt ครับ

EBITDA สื่อถึงเงินสดที่กิจการหาได้ในแต่ละปีก่อนจ่ายดอกเบี้ยและภาษี

Growth-Investment2Net debt หรือหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยหาได้โดยนำเอา Long term debt + Long term debt ที่จะครบกำหนดใน 1 ปี และหักด้วย cash in hand แต่หาก current asset น้อยกว่า current liability ก็ไม่เอา cash มาหักออก

EV/EBITDA เป็นวิธีหาความถูกแพงของหุ้นคล้ายๆ การหา P/E แต่เป็นการลดข้อจำกัดของ P/E ตรงที่หุ้นหลายตัว earning ติดลบหา P/E ไม่ได้ แต่เนื่องจาก EBITDA คือการนำ earning บวกกลับด้วยค่าเสื่อมฯ ดอกเบี้ย ซึ่งปกติแล้วแม้ว่าบริษัทนั้นๆ จะขาดทุนเละยังไง EBITDA ก็มักจะยังเป็นบวกอยู่ได้

นอกจากนี้ EV/EBITDA ยังขจัดความแตกต่างของนโยบายทางบัญชีที่สำคัญเช่น ค่าเสื่อมราคา และความเหลื่อมล้ำของการจ่ายภาษีได้ ซึ่งจากการที่ค่าเสื่อมราคามีความสำคัญมากสำหรับหุ้นที่ใช้เครื่องจักรสูง ดังนั้นหุ้นที่ทำธุรกิจภาคการผลิต นักวิเคราะห์และผู้ลงทุนจึงมักจะใช้ EV/EBITDA ในการหาความถูกแพงของหุ้นมากกว่า P/E เพราะหลายครั้ง p/e ทำให้เกิดการ misleading ได้ นักลงทุนหุ้นโตเร็วจะติดตามค่านี้ถ้ามันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือสามารถทำนายได้ว่าอนาคตจะดีขึ้น นั่นคือสัญญาณสำคัญของหุ้นที่กำลังจะโต

สัญญาณสุดท้าย “ต้องมีจินตนาการเห็นภาพอนาคต”

เมื่อเราพบเจอหุ้นโตเร็วแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องคิดเสมอก็คือ ตัวเลข หรือภาพการประกอบธุรกิจในตอนนี้นั้นเป็นภาพปัจจุบัน สิ่งที่เราต้องทำต่อก็คือมองหาภาพในอนาคตให้พบ การที่นักลงทุนหุ้นโตเร็วจะเห็นภาพอนาคตของบริษัท เราอาจต้องลองใช้สินค้า และบริการนั้นเอง ติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค ว่าในอนาคตจะมีคนสนใจอยากมาใช้สินค้า และบริการนั้นๆ มากขึ้นหรือไม่ และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเปล่า ถ้าใช่รีบคว้าหุ้นไว้เลยครับ

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ขอแนะนำ TopOfliving.com “คลิ๊กเพื่ออ่าน”

นายแว่นธรรมดา

 

ไม่มีเวลาอ่านฟังในรูปแบบคลิ๊ปเสียง “คลิ๊กที่นี่”

อ่านหุ้นรถไฟฟ้าเพิ่มเติม “คลิ๊กเพื่ออ่าน”

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

#‎หนังสือน่าอ่าน‬ เจาะหุ้น VI เกาะกระแสเมกะเทรนด์

กระแสเมกะเทรนด์ในยุคใหม่มีอะไรบ้าง และเราจะลงทุนอย่างไรให้เกาะไปกับกระแส เพื่อไม่ให้ตกรถ หนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าประสบการณ์ลงทุนในหุ้น จะทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับหุ้นที่เราไม่รู้จัก และปลอดภัยจากการลงทุนได้มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

หน้าปก เจาะหุ้นวีไอเกาะกระแสเมกะเทรนด์

บทนำ “จุดเริ่มต้นของการลงทุนแนววีไอ”
บทที่ 1 เลือกหุ้นอย่างไรให้ปลอดภัย
บทที่ 2 เจาะหุ้นเหล็ก
บทที่ 3 ยุคแห่งพลังงานสะอาด และเมกะเทรนด์โรงไฟฟ้า
บทที่ 4 บทเรียนหุ้นพลังงานทดแทน
บทที่ 5 เจาะแก่นหุ้นเล็กโตไว
บทที่ 6 วีไอซื้อหุ้นต้องดูอะไรบ้าง?
บทที่ 7 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นโภคภัณฑ์
บทที่ 8 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นรถไฟฟ้า และหุ้นคอนโดมิเนียม

ติดตามได้ที่นี่เลยครับ “คลิ๊กเพื่อเข้าสู่หนังสือ”