วีไอมือใหม่ “ลงทุนระยะยาว VS ลงทุนระยะสั้น”

การลงทุนนั้นหากเราแบ่งออกเป็นวิธีการลงทุนโดยทั่วไปแล้วเราสามารถแบ่งการลงทุนออกเป็น “การลงทุนระยะยาว ” และ “การลงทุนระยะสั้น” สำหรับคนส่วนใหญ่ในตลาดไม่ต้องเดาก็คงจะตอบได้ว่าส่วนใหญ่นั้นจะเป็นนักลงทุนระยะสั้น สิ่งที่บ่งบอกว่าเราเป็นนักลงทุนแบบไหนลองมาดูกันครับ…

นักลงทุนระยะสั้น

สำหรับนักลงทุนระยะสั้นนั้นมักจะชอบบรรยากาศของตลาดในช่วงขาขึ้นที่แสนจะคึกคัก โดยนักลงทุนระยะสั้นนั้นไม่ค่อยชอบบรรยากาศการลงทุนที่ซบเซา ไม่มี “วอลุ่ม” ไม่ชอบหุ้นที่ไม่มีความเคลื่อนไหวของราคา… สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนระยะสั้นรู้สึกก็คือ “ไม่ค่อยชอบวันเสาร์ อาทิตย์” เพราะรู้สึกว่าตนเองขาดโอกาสในการทำกำไรจากการเก็งราคาขึ้นๆ ลงๆ ในตลาด ยิ่งเจอวันหยุดยาวๆ ยิ่งรู้สึกเบื่อ และอยากให้ตลาดกลับมาเปิดทำการเร็วๆ จะได้ซื้อๆ ขายๆ เพื่อหวังกำไรบางทีหวังกำไรแบบวันต่อวันเลยครับ…

ความเป็นจริงแล้ว… การลงทุนระยะสั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ เพียงแต่ผมเข้าใจว่านักลงทุนประเภทนี้มีเป็นจำนวนมาก ทำให้เราต้องแข่งขันสูง หรือเรียกว่า “มีคู่แข่งเยอะ” หากเราจะโดดเด่น และประสบความสำเร็จกว่าคนอื่นๆ เราต้องเก่งกว่า ขยันกว่า และคู่แข่งที่สำคัญของเราไม่ใช่แค่คนที่มาลงทุน แต่เป็น “อารมณ์ของตลาด” ที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย เรียกได้ว่า เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย นั่นเอง…

นักลงทุนระยะยาว

สำหรับนักลงทุนระยะยาวในนิยามส่วนตัวของผมนั้นจะเป็นนักลงทุนที่มองปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเป็นหลัก โดยความเชื่อที่ว่า… “ราคาหุ้นเป็นผลสะท้อนมาจากกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท” กิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทก็คือ “กำไร” ที่บริษัททำได้นั่นเองครับ… หมายความว่า… กำไรเป็นเจ้ามือตัวจริงที่คอยผลักดันราคาหุ้นให้ขึ้น หรือลง ตามผลประกอบการที่บริษัททำได้… แต่เดี๋ยวก่อนครับ… ตัวกำไรเองนั้นความเป็นจริงแล้วก็สามารถ “ตบแต่ง” กันได้ และหลอกนักลงทุนอย่างเราได้เช่นกันครับ… สำหรับผมแล้วนอกจากกำไรแล้ว เราต้องพิจารณา “กระแสเงินสด” ประกอบการตัดสินใจด้วย… (ซึ่งผมจะกล่าวในครั้งต่อๆ ไป)

สิ่งที่นักลงทุนระยะยาวควรจะมีหรือทำได้ก็คือ การมองธุรกิจให้เป็น มองพื้นฐานของบริษัท มองความสามารถในการทำกำไรให้ออก และประเมิณมูลค่าของมันออกมาให้ได้… เวลาเราซื้อหุ้น เราไม่ได้ซื้อแค่ “ทรัพย์สินของกิจการ” นะครับ เรายังต้องซื้อ “หนี้สิน” และ “ความสามารถในการทำกำไร” ของบริษัทนั้นๆ ด้วย … นักลงทุนที่ดีควรประเมิณมูลค่าที่แท้จริงของกิจการออกมาให้ได้ … สำหรับผมแล้วถือเป็น “งานหลัก” ที่นักลงทุนระยะยาวต้องทำครับ…

นักลงทุนระยะยาวควรหวังผลของการลงทุนอย่างไร?

สำหรับผมแล้วผลการลงทุนระยะยาวนั้นอาจจะสำคัญ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “การทบต้นของผลกำไร” ยกตัวอย่างเช่นหากเราลงทุนระยะยาวให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยบริษัทนี้จะมีเงินปันผลต่อปีสิบเปอร์เซ็นต์ และเรานำเงินปันผลมาลงทุนทบไปเรื่อยๆ ติดต่อกันนานๆ ซักสิบปี ผลตอบแทนทบต้นของเราจะกลายเป็นสองเท่าของเงินต้นได้อย่างสบายๆ … หรือเราลองพิจารณาประกอบเพิ่มเติมว่าหากบริษัทที่เราลงทุนมีผลตอบแทนเฉลี่ยเพียงห้าเปอร์เซ็นต์ต่อปี (ปันผล) แต่มีการเติบโตเฉลี่ยสิบเปอร์เซ็นต์ทุกปี แบบนี้เท่ากับเราลงทุนในบริษัทที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยสิบห้าเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่นี้ก็มากมายกว่าเงินฝากออมทรัพย์มหาศาลแล้วล่ะครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับการประเมิณการลงทุน ซึ่งเราควรต้องประเมิณตัวเองให้ออกว่าเราเป็นนักลงทุนระยะสั้น หรือนักลงทุนระยะยาว … และปรับวิธีการลงทุนมาใช้ให้ถูกต้องกับ “ตัวตน” ที่แท้จริงของเราครับ… ผมไม่ได้บอกว่าการลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน แต่ถ้าเราทำแบบไหนได้ดีกว่า เราก็ควรทำสิ่งนั้นต่อไป และควรใช้ความพยายามในการพัฒนาตนเองให้มากขึ้นๆ ไม่มีทางลัดสำหรับการที่เราจะประสบความสำเร็จในตลาดครับ…

ดังคำกล่าวที่ว่า “การลงทุนกันตัวเองนั้น คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด”

วันนี้คุณได้ลงทุนกับตัวคุณเองมากน้อยแค่ไหนครับ… ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนทุกท่านนะครับ…

(นายแว่นธรรมดา)

WP_20130607_001

(หนังสือ “รวยหุ้นแบบวีไอ ไม่เสี่ยง” หนังสือเริ่มต้นสำหรับแนวทางการลงทุนระยะยาว โดยนายแว่นธรรมดา)

2 replies

Comments are closed.