เจาะหุ้น Global House ธุรกิจที่น่าจับตามอง …

เรื่องราวโดยรวมของบริษัทโกลบอลเฮ้าส์

บริษัทโกลบอลเฮ้าส์ มีแนวคิดในการทำธุรกิจอยู่ในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง โดยกลุ่มลูกค้าจะเน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก ลูกค้าที่ต้องการต่อเติมบ้าน หรือสร้างบ้านใหม่ในต่างจังหวัด โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ครบในที่เดียว หากเป็นผู้รับเหมาก็สามารถโทรสั่งซื้อล่วงหน้า และขับรถเข้าไปซื้อของได้เลย

จากการที่ผมได้ไปเดินดูสถานที่จริงพบว่า… สินค้ามีให้เลือกมากมายจริงๆ ครับ บรรยากาศก็แตกต่างจากโฮมโปรค่อนข้างมาก คือ รู้สึกดูทันสมัยน้อยกว่า แต่ไม่ค่อยมีพนักงานมาคอยจุกจิกเวลาเราเลือกซื้อของอันนี้รู้สึกดีครับ ข้อสังเกตของผมก็คือ พนักงานมีเป็นจำนวนมาก ผมไม่แน่ใจว่าต้นทุนจ้างงานมากน้อยแค่ไหน แต่หากลูกค้าน้อยเกินกว่าพนักงานที่มี น่าจะเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานมากกว่าจำนวนจะดีกว่า … โดยภาพรวมรู้สึกเหมือนเดินคลองถม ปนร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่มีของครบๆ ครับ

comic naiwaen 12

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความนี้กรุณา”]

บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี 2553 -2556

กำไรสุทธิ

362.13

490.60

609.00

720.38

กำไรเพิ่มขึ้นในปีล่าสุดหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด อาจจะมาจากปัญหาที่เกษตรกรเริ่มมีหนี้สินชาวนามากขึ้น กำลังในการจับจ่ายลดลง แต่โกลบอลมีเงินสดเหลืออยู่ในมือ1,295.98 บาท อาจมีปัญหาสภาพคล่องหมุนเวียนที่ต้องจ่ายพนักงาน และเงินในการดำเนินงาน ในขณะที่กำลังซื้อหดตัว หากเป็นภาวะชั่วคราวก็คงไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ถ้ายังคงหดตัวต่อเนื่องก็น่ากังวลใจไม่น้อยครับ

อย่างไรก็ตาม… อัตราการเติบโตที่หดตัวลงนั้นตรงกันข้ามกับอัตราการเพิ่มขึ้นของสาขากิจการ โดยโกลบอลยังคงขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตกปีละ 7-10 สาขา แต่ละสาขาใช้เงินในการขยาย 200-300 ล้านบาท หากคิดเฉพาะการขยายสาขาอย่างเดียว ต้องใช้เงินสูงสุด 3000 ล้านบาท ในขณะที่กระแสเงินสดเริ่มติดลบ ไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป… ตัวนี้ต้องเฝ้าระวัง แต่ก็ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท และคนยังอยากสร้างบ้านใหม่ๆ ปรับปรุงบ้านใหม่ๆ โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ให้มาร์เก็ตแค็ป ไม่เกิน 3 หมื่นล้านจึงเข้าข่ายน่าสนใจสะสมครับ

global 01

เรื่องหนี้สิน

ตอนนี้หนี้สินของโกลบอลมีรวมกันประมาณ 4 พันล้าน เป็นหนี้สินหมุนเวียนแทบทั้งหมด ต้องระวังเรื่องสภาพคล่องพอสมควร จากที่ผมได้สอบถามทาง IR ล่าสุดนั้นมีการกู้เพิ่มอีกกว่า 5 พันล้าน หมายความว่าปีหน้าทั้งปีโกลบอลเฮ้าส์จะไม่ขาดสภาพคล่อง (หากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ก็ทำให้หมดห่วงตรงนี้ไปบ้างครับ

เรื่องกระแสเงินสด

กระแสเงินสดของบริษัทติดลบอยู่หลักพันล้าน จากการที่สอบถามได้ความว่าเป็นการซื้อของมา stock เอาไว้ หากของขายหมดไปกระแสเงินสดก็จะติดลบน้อยลง แต่เป็นธรรมดาของการขยายงานที่กระแสเงินสดจะติดลบ ถ้าไม่ติดลบมากจนน่าตกใจก็พอจะเบาใจได้ครับ

global 02

ดูค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารย้อนหลังก็สูงขึ้นไม่มาก เมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไร (ตัวเลขอดีต) แต่ถ้าหากมีการขยายงานไปเรื่อยๆ เปิดสาขาปีละ 7-10 สาขา แล้วค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่ได้สูงขึ้นมาก ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรครับ แต่ค่าใช้จ่ายก็ควรสัมพันธ์กับการเติบโตของยอดขายด้วยจะดีมากๆ

จากที่ผมได้อ่านบทวิเคราะห์จากหลายที่ ต่างก็ปรับลดยอดขายของโกลบอลเฮ้าส์ลง รวมทั้งปรับลดอัตราการทำกำไรลง บางที่เป็นแค่หน่วยเดียว โบรกฯ บางแห่งปรับลดลงถึงสองหน่วย หากสถานะการณ์เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงต้องจับตาดูให้มากๆ เข้าไว้เหมือนกันครับ

กำไรสุทธิเติบโต 79% (ปี 2012) … เนื่องจากการร่วมทุนกับปูนใหญ่ได้เงินมา 10% ประมาณ 3000 ล้านบาท และได้เงินจากการใช้สิทธิ์ในการแปลงวอแรนต์ 1.5 พันล้าน รวมประมาณ 4700 ล้าน ทางโกลบอลนำไปชำระเงินกู้ระยะยาวทั้งหมด ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยลงไปมาก ทำให้สาขาเก่าๆ แทบไม่มีหนี้แล้ว (ไม่นับสาขาใหม่) แต่พอเริ่มขยายสาขาใหม่ๆ ทำให้หนี้พุ่งขึ้นมาเกิน 1 เท่า เนื่องจากต้นทุนการเปิดสาขาค่อนข้างสูงจากการที่ต้องซื้อที่ดินใหม่ด้วยครับ

global 04

ศูนย์กระจายสินค้า

ทางโกลบอลเฮ้าส์เริ่มก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่จังหวัดอยุธยา เพื่อตอบรับกับสาขาที่เพิ่มขึ้น และให้ทางปูนใหญ่เป็นผู้กระจายสินค้า โดยพื้นที่ของศูนย์กระจายสินค้าประมาณ 150 ไร่ ศูนย์กระจายสินค้าจะช่วยลดจำนวนวันของการหมุนเวียนสินค้าลงจาก 140 วัน ลงทำให้ต้นทุนการกระจายสินค้าลดลงได้ครับ

ความกังวลเรื่องกำลังซื้อที่หดตัวลงนั้นยังคงกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่หดตัว เนื่องจากลูกค้ากว่า 80% เป็นลูกค้าปรับปรุงบ้านระดับครัวเรือน แต่ก็ยังคงมีโมเมนตัมของการก่อสร้างบ้านเหลืออยู่ หากสถานการณ์กลับมาเร็วโอกาสที่จะโตต่อเนื่องก็มีอยู่ครับ

เรื่องอื่นๆ หากมีอะไรเพิ่มเติมจะมาอัปเดตในคราวต่อๆ ไปครับ… ใครมีข้อเสนอแนะอย่างไรมาช่วยกันแชร์นะครับ เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่เข้ามาหาข้อมูลครับ ขอบคุณครับ (นายแว่นธรรมดา)

[/premium]

“เปิดรับสมัครสมาชิก”

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับกระเป๋า “แมวมันนี่” หรือกระเป๋า “นกฮูกนำโชค” หนึ่งใบ (อย่างใดอย่างหนึ่ง) ใส่หนังสือได้หลายเล่มเลยล่ะครับ !!

ใครยังไม่สมัครต้องรีบหน่อยนะครับ สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ http://www.naiwaen.com/?page_id=3131

bag naiwaen 07

แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนอยากมีบ้านหลังแรก และต้องการมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

http://www.topofliving.com/ (โดยนายแว่นธรรมดา เช่นเคยครับผม)

logo-topofliving2

5 replies
  1. นายแว่นธรรมดา
    นายแว่นธรรมดา says:

    จากตัวเลขเก่ารายรับต่อสาขาตกประมาณสามร้อยล้านบาทต่อปี ปี 56 รายรับไม่สูงไปกว่าปีก่อนหน้านี้ครับ ทั้งที่สาขาก็เพิ่มขึ้นมาพอสมควรครับ

  2. Top of Living by Naiwaen Tammada
    Top of Living by Naiwaen Tammada says:

    Global Stock ที่เหลือ จะถ่ายเทไปยังอีก 7 สาขาใหม่ที่ทยอยสร้างในปีนี้ไ้ด้ครับ

    งบ Hmpro แข็งกว่า สวยกว่า ส่วนนึงเพราะเกิดก่อน ลองผิด ลองถูกมาก่อน
    + ไม่ได้ลง Fix Asset + ทีมผบห ระดับแชมป์

    PE Global ตอนนี้จะสูงกว่า Hmrpo ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรครับ เพราะ Growth ของ Global >Hmpro

    Hmpro 45=>53 = เพิ่ม8 เฉลี่ยทั้งปี(18/2)+8(%SSS) = 17% กับ
    Global 13=>20 เพิ่ม7 เฉลี่ยทั้งปี (53%/2)+8(SSS) = 34.5%

    ส่วนปี 56 หลังจากสาขาที่เปิดใหม่ ทำการได้เต็มปี ตัวเลขก็จะกระโดดทุกไตรมาส
    PE ก็จะลดลงไปเรื่อยๆครับ

    ผมกลับมองว่า ณ จุดนี้ PE Hmpro สูงไปด้วยซ้ำ Hmpro เข้าขั้น ผู้ใหญ่เต็มวัย
    ต่อไปคงอยู่ในการักษาพื้นที่ไปเรื่อยๆ + Spotlight ฉายไปเ็ต็มๆแล้วครับ เพราะคนเมืองมีโอกาสได้สัมผัส
    บริการเยอะ ทำให้เข้าใจธุรกิจ

    แต่ Global 13 มา 20 นี่ และยังอยู่ในพื้นที่อีสานกับภาคกลางบางส่วน
    ผมมองว่ายังอยู่ในช่วงวัยรุ่นครับ ยังมีหลายอย่างที่ต้องปรับ และอยู่ในวิสัยที่สามารถปรับได้
    อาจจะบ่มอีกซักพัก ตัวเลขต่างๆมีโอกาสดีขึ้นได้

  3. นายแว่นธรรมดา
    นายแว่นธรรมดา says:

    โกลบอลเฮ้าส์มึนยอดชะลอ

    นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานกรรมการ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่งแบบโอเพ่นแอร์ เปิดเผยว่า โกลบอลเฮ้าส์ในต่างจังหวัดบางสาขาในภาคอีสานมียอดขายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกจริง โดยหดตัวลงประมาณ 5% แต่มีจำนวนไม่ถึง 10 สาขา

    ประเมินว่าเกิดจากเศรษฐกิจชะลอตัวและผู้บริโภคกังวลอนาคตจะถูกลดเงินเดือนหรือตกงาน จึงระมัดระวังการใช้จ่าย ปัญหาชาวนาไม่ได้รับเงินโครงการจำนำข้าว และมีคู่แข่งเปิดสาขาในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในแง่ยอดขายรวม 2 เดือนแรกยังขยายจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าเติบโตทั้งปี 20% และยังมั่นใจว่าน่าจะได้ตามเป้า

    ทั้งนี้ ประเมินด้วยว่าแนวโน้มกำลังซื้อชะลอตัวจะกินเวลาไปอีก 2-3 เดือนน่าจะเริ่มดีขึ้น เพราะวัสดุก่อสร้างเป็นสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับบ้านซึ่งเป็นปัจจัย 4 ผู้บริโภคแค่ชะลอการซื้อออกไป หากสถานการณ์การเมืองกลับสู่ปกติ มีรัฐบาลใหม่และชาวนาได้รับเงินจำนำข้าว กำลังซื้อก็จะกลับมา ขณะนี้บริษัทจึงไม่มีนโยบายจัดแคมเปญลดราคาแรง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย เพราะปกติตั้งราคาต่ำกว่าคู่แข่งอยู่แล้ว

    "เรายังคงแผนเปิดสาขาทั้งปี 17 แห่งตามเดิม เพราะยอดขายโดยรวมไม่ได้หดตัวจากปีก่อน แค่ไม่ได้เติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

  4. นายแว่นธรรมดา NaiwaenTammada
    นายแว่นธรรมดา NaiwaenTammada says:

    โฮมโปรอีสาน-กลางวูบรอบ 5 ปี

    นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโมเดิร์นเทรดวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้าน "โฮมโปร" เปิดเผยว่า นับจากเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา สาขาโฮมโปรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางบางส่วน ทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้า 5-10% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ส่งผลให้อัตราเติบโตยอดขายสาขาเก่าโดยรวม (Same Store Growth) ช่วง 2 เดือนแรกต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ โดยมีอัตราเติบโต 4% จากเป้า 6% ปัจจัยหลักมาจากพื้นที่ภาคอีสานและภาคกลางบางส่วน มีหลายจังหวัดที่ประชาชนประกอบอาชีพทำนา เมื่อรัฐบาลค้างชำระหนี้โครงการรับจำนำข้าว ส่งผลทางอ้อมให้ยอดซื้อวัสดุและสินค้าซ่อมแซมบ้านชะลอตัว

    ทั้งนี้ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอ พบว่าสินค้ารุ่นท็อปที่มีราคาสูงได้รับความสนใจลดลง ขณะที่สินค้าระดับกลาง-ล่างมียอดขายปกติ กลยุทธ์โฮมโปรปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ หรือสินค้าที่โฮมโปรจ้างซัพพลายเออร์ผลิต จากสิ้นปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้ 20% เป็น 21% หรือคิดเป็นยอดขายที่จะต้องเพิ่มขึ้น 460 ล้านบาท

    "ปีนี้เราต้องทำงานหนักกว่าเดิม นอกจากเพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์ เราพัฒนาเรื่องบริการส่งสินค้าฟรีทั่วไทย (ระยะทางตามที่กำหนดจากสาขาที่จัดส่ง) ขณะเดียวกัน จะนำรายชื่อฐานลูกค้าสมาชิกบัตรโฮมการ์ดที่มียอดซื้อสม่ำเสมอ 1.8 ล้านราย มาวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้า และจัดแคมเปญกระตุ้นการขายเฉพาะลูกค้าแต่ละกลุ่ม" นายคุณวุฒิกล่าว

Comments are closed.