“หุ้นปั่น กับ การลงทุนอย่างปลอดภัย”

กลยุทธ์การลงทุนอย่างปลอดภัย “หุ้นปั่น กับ การลงทุนอย่างปลอดภัย”

“หุ้นปั่น” เป็นอะไรที่ดูแล้วห่างไกลจากแนวทางการลงทุนอย่างปลอดภัยแบบชนิดที่ว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียวครับ แต่ทว่า… นักลงทุนที่อยู่ใน “วังวน” ของการเล่นหุ้นอย่างเราจะทำตัวให้ห่างไกลจากหุ้นปั่นได้อย่างไร แม้ว่าหุ้นบางตัวดูดี มีพื้นฐานรองรับแต่ถ้ามีคนมาปั่น หรือภาษาทั่วๆ ไปเรียกว่า “จ้าวประทับ” หุ้นที่ดูพื้นฐานดีอาจกลายเป็นหุ้นปั่นขึ้นมาทันที แล้วเราจะทำอย่างไรดี? ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า… ลักษณะของหุ้นปั่น และแนวทางการหลีกเลี่ยงหุ้นปั่นสำหรับนักลงทุนผู้ปลอดภัย (Safety Investor) เป็นอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันครับ…

safety investor stock run

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

ประการแรก

ในอดีตหุ้นปั่นจะเป็นหุ้นตัวเล็กที่พื้นฐานไม่ดี แต่ปัจจุบันนี้ หุ้นปั่นจะเป็นหุ้นตัวเลข มีสภาพคล่อง และพื้นฐานดี เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยฉลาดขึ้นมาก ทำให้ต้องมีเรื่องราว (story) ที่เป็นพื้นฐานมารองรับการปั่นหุ้น สุดท้ายก็เป็นหุ้นปั่นให้เราเข้าไปติดกับอยู่ดีครับ

ประการที่สอง

ลักษณะนิสัยของนักลงทุนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยมักจะไม่สนใจหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง แม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีๆ แต่กลับชอบหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงๆ เพราะราคาวิ่งทันใจดี ซึ่งหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงมากๆ มักจะเป็นหุ้นปั่น ใครที่ออกของไม่ทัน ก็จะติดหุ้น โดยนักลงทุนเหล่านั้นมักจะโทษตัวเองว่า โชคไม่ดีออกไม่ทัน

ประการที่สาม

นักลงทุนที่ไม่สนใจหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่อง หุ้นที่ขาดสภาพคล่อง แต่เมื่อหุ้นตัวนั้นมีคนไปไล่ซื้อทำให้มีปริมาณการซื้อขาย (Volume) คึกคักขึ้นซัก 5-10% ก็มักจะเริ่มสนใจหุ้นตัวนั้นๆ ยิ่งถ้ามีพื้นฐานดีๆ มีเรื่องราวมารองรับก็จะเข้าผสมโรง ทุกคนมักคิดว่า “กลัวตกรถ” “กลัวขึ้นรถไม่ทัน” ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะเข้าทางจ้าวมือที่เข้ามาปั่นหุ้นทันทีครับ

ประการที่สี่

นักปั่นหุ้นจะเล่นกับความรู้สึกภาคภูมิใจของนักเล่นหุ้น หากสามารถซื้อขายหุ้นในวันเดียวแล้วได้กำไรเล็กๆ น้อยๆ ซัก 1-2% มากกว่าถือหุ้นระยะยาวแล้วกำไร 20-30% ความรู้สึกแบบนี้จะทำให้นักเล่นหุ้นเข้าไปติดกับนักปั่นหุ้นได้ง่ายๆ สรุปแล้วค่าเฉลี่ยของการซื้อขายหุ้นทั้งปีแล้วมักจะขาดทุนนั่นเอง

ประการที่ห้า

ควรระวังหุ้นหลายๆ ตัวในตลาดที่มีนักลงทุน (นักปั่น) รายใหญ่ดูแลราคา เมื่อมีข่าวดีต่อหุ้นตัวนั้นเข้ามานักลงทุนผู้ปลอดภัยควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งคนดูแลราคาไม่อยากให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ก็จะทำการกดราคาไว้ รอจนได้ราคาที่เหมาะสมก็จะเข้ามาไล่ราคาหุ้น ทำให้หุ้นเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น ซ้ำด้วยการออกข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่ามี “ข่าวดี” เข้ามาแล้ว หุ้นกำลังจะ “ทะยานแล้ว” นักเล่นหุ้นที่รู้ไม่เท่าทันก็จะเข้ามาไล่ราคาซื้อ และติดหุ้นในที่สุดครับ

ประการที่หก

ส่วนใหญ่แล้วหุ้นปั่นจะกลัวสภาวะตลาดมากกว่า คณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เนื่องจากนักปั่นมักจะมีวิธีการเลี่ยงอย่างแยบยล ทำให้จับได้ยาก เราจึงไม่ควรประมาท นักลงทุนผู้ปลอดภัยควรหมั่นฝึกฝนจิตใจไม่หลงระเริงไปกับการปั่นหุ้นที่ชวนให้ดึงดูดเข้าหากองไฟ

ประการที่เจ็ด

นักปั่นหุ้นมักจะใช้ชื่อคนอื่น ตั้งแต่ 2-4 คนขึ้นไปเป็นตัวแทนในการถือหุ้นหรือ Nominee ช่วยซื้อขายหุ้น โยนหุ้นไปมา เพื่อไม่ต้องการให้เรื่องการปั่นหุ้นถูกสาวมาถึงตนเอง ขณะเดียวกันก็ต้องหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์การถือหุ้นไม่ให้เกิน 5% ของทุนจดทะเบียนบริษัท เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะต้องแจ้งกับ ก.ล.ต. ในเว็บไซค์ www.sec.ro.th ทำให้นักลงทุนรายย่อยมักตามไม่ทัน

ประการสุดท้าย

นักลงทุนผู้ปลอดภัยสามารถ “หลีกเลี่ยง” หุ้นปั่นได้ด้วยการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นที่เราสนใจออกมาเสียก่อนที่จะเข้าไปลงทุน การประเมินต้องทำทั้งมูลค่าปัจจุบันที่ควรจะเป็น และมูลค่าในอนาคต โดยต้องตัดปัจจัยที่ไม่แน่นอนออกให้หมด ก็จะหลีกเลี่ยงราคาปั่นได้ครับ

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นแนวทางในการหลีกเลี่ยงหุ้นปั่นสำหรับนักลงทุนผู้ปลอดภัย หรือ Safety Investor ที่ควรหมั่น “ฝึกฝน” ให้เชี่ยวชาญ และมองหุ้นปั่นให้ออก ก่อนที่เราจะไปติดกับดักของนักเล่นหุ้นรายใหญ่โดยที่เราไม่รู้ตัวครับ

(นายแว่นธรรมดา)

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดาครับ ใครยังไม่สมัครต้องรีบหน่อยนะครับ ของแถมล็อตนี้ใกล้หมดละครับ สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

book naiwaen 06

แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนรักกระเป๋าน่ารักๆ  ”OBS” หรือ OPEN BAG STORY(https://www.facebook.com/openbagstory) แวะเข้าไปชมกันให้ได้นะคะ