หุ้นเก็งกำไร 5 แบบ
หุ้นเก็งกำไร 5 แบบ
การลงทุนในหุ้นสำหรับผมแบ่งเป็นสองพอร์ต ได้แก่ พอร์ตลงทุนระยะยาวที่เน้นซื้อแล้วไม่ขาย รอบการลงทุน 5-10 ปีขึ้นไป หรืออาจจะยาวนานกว่านั้น และอีกพอร์ตที่เน้นเก็งกำไร รอบการลงทุน 3-6 เดือน เรามาดูแนวการเก็งกำไร 5 แบบสำหรับพอร์ตที่สองกัน
หุ้นแบบแรก “หุ้นที่ขาดทุนชั่วคราวหรือ One Time Loss Stock”
หุ้นที่ผมมักจะเฝ้าติดตามความเป็นไปอยู่เสมอ คือ หุ้นประเภทขาดทุนชั่วคราวเพียงครั้งเดียว หรือ One Time Loss Stock ความหมายก็ตามตัวเลย หุ้นแบบนี้อาจเกิดการขาดทุนแบบไม่คาดคิด แต่เป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราว โดยการขาดทุนที่ผมมักจะเฝ้าติดตามก็คือ การขาดทุนจากการบันทึกการด้อยค่าของสต็อกสินค้า ที่เป็นการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น หรืออาจเกิดจากเจ้าของกิจการคำนวณการตุนสต็อกสินค้าผิดพลาด แต่เป็นเพียงครั้งเดียว ทำให้กำไรต่อหุ้นตกต่ำลง ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับลดลง แบบนี้ผมก็จะเข้าไปซื้อ และถือรอไตรมาสต่อไป ถ้าการขาดทุนสต็อกเป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ในไตรมาสต่อไปกำไรต่อหุ้นต้องดีขึ้น และนั่นก็จะทำให้ราคาหุ้นขยับปรับตัวขึ้น
หุ้นแบบที่สอง “หุ้นที่จะมีการปันผลโดดเด่น”
หุ้นแบบที่สองที่น่าสนใจเข้าไปเก็งกำไร ก็คือ หุ้นที่มีแววว่าจะปันผลโดดเด่น การที่เราจะเจาะเข้าไปดูว่าหุ้นจะปันผลดีหรือไม่ สามารถทำได้ด้วยการเจาะดูงบการเงิน และผลการดำเนินงาน หากเราพบเหตุการณ์ที่ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น แต่ต้นทุนปรับเพิ่มน้อยกว่า หรือไม่ได้ปรับเพิ่มเลย แบบนี้ก็จะพอทำนายได้ว่าอนาคตจะปันผลออกมาดี ถ้าราคาหุ้นขยับปรับตัวลงก็เป็นจังหวะเก็บของ เพื่อรอประกาศปันผลในอนาคต และเมื่อราคาปรับขึ้นคงรู้ว่าควรทำอย่างไรนะครับ
หุ้นแบบที่สาม “หุ้นที่มีรายได้โดดเด่นตามฤดูกาล”
หุ้นหลายตัวมีสิ่งที่เรียกว่า ปัจจัยด้านฤดูกาล เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวที่มีฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างที่เรารู้ว่าหน้าฝนผู้คนจะท่องเที่ยวน้อย และจะหนาแน่นช่วงปลายปี ต้นปี หากเรามองไม่เห็นหุ้นที่จะเก็งกำไรตัวอื่น มีเงินเหลือว่างๆ ก็สามารถซื้อหุ้นประเภทนี้เก็บไว้ตอนที่ฤดูกาลท่องเที่ยวซบเซา และรอขายเมื่อมันกลับมาดีอีกครั้งหนึ่ง
วัดมูลค่าหุ้นเขาทำกันอย่างไร “คลิ๊กอ่านเพิ่มที่นี่”
หุ้นแบบที่สี่ “หุ้นที่กำลังจะแตกบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์”
ในช่วงนี้ก็มีหุ้นหลายตัวที่กำลังจะแตกบริษัทลูกเป็นหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ และทุกครั้งที่หุ้นลูกจะเข้าตลาด หุ้นตัวแม่ก็จะขยับปรับตัวขึ้นอย่างที่เห็นกัน แต่การเก็งกำไรแบบนี้เราต้องแน่ใจว่าบริษัทแม่เริ่มยื่น filing ให้กับ กลต.พิจารณาแล้ว ยิ่งถ้ามีกำหนดการเอาหุ้นเข้าตลาดแบบชัดเจนยิ่งดี เพราะหุ้นบางตัวบอกว่าจะเอาหุ้นลูกเข้าตลาดมานานหลายปี ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้นักเล่นหุ้นต้องอมเลือดขาดทุน ติดดอยกันนักต่อนัก
หุ้นแบบที่ห้า “หุ้นที่วัตถุดิบหลักมีการปรับตัวลดลง”
หุ้นประเภทสุดท้ายบางครั้งเราอาจจะลงทุนระยะยาวได้ หุ้นแบบนี้เราต้องศึกษาให้ละเอียดว่าวัตถุดิบหลักของการสร้างสินค้า และบริการของบริษัทเหล่านั้นคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น หุ้นสายการบิน ที่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากค่าน้ำมันที่เติมเครื่องบิน ถ้าราคาน้ำมันขยับปรับลดลงจะทำให้ต้นทุนขายลดลงอย่างมาก ในปัจจุบันราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมามาก ทำให้สายการบินบางสายมีส่วนต่างจากการลดลงของราคาน้ำมันเป็นหลักพันล้านบาท และนั่นก็จะสะท้อนไปเป็นกำไรในบรรทัดสุดท้าย ถ้าเราวิเคราะห์ออกว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงไปอีกนาน บางครั้งก็สามารถลงทุนระยะกลาง ถึงยาวได้ แต่ของอย่างนี้มันแน่นอนซะที่ไหน ถ้าธีมของเราคือ เก็งกำไร แล้ว มีกำไรก็ควรทำกำไรน่าจะดีกว่าครับ
นายแว่นธรรมดา
ไม่มีเวลาอ่านฟังในรูปแบบคลิ๊ปเสียง “คลิ๊กที่นี่”
คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ
