#HowToวีไอ : ทำไมต้อง VI?

 

บทนำ

ช่วงที่ผมเขียนบทความนี้เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาจาก 1200 จุด มาเป็น 1600 จุด ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED การโหวตออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือ Brexit และเหตุการณ์อีกมากมายที่ทำให้เราต่างก็รู้สึกว่า “ตลาดหุ้นจะแย่” ตลาดหุ้นจะตกต่ำลง แต่หุ้นก็กลับทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด นั่นก็คือ มันขึ้นไปเรื่อยๆ จนปิดปี 2559 หุ้นขึ้นมาเกือบ 20% นับตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว

สำหรับการลงทุนส่วนตัวของผมนั้นในปี 2559 ถือว่าทำได้ดีกว่าตลาดเพียงเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนหลายคนทำผลงานได้ดีกว่าตลาด และมีนักลงทุนบางส่วนทำผลงานได้แย่กว่าตลาด โดยแนวคิดที่ทำให้ผมอยู่รอดปลอดภัยจากการลงทุนหุ้นมาหลายปีก็คือ “การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” หรือการลงทุนแบบ VI (Value Investment) นั่นเอง

          ทำไมต้อง VI?

bem grahamคำว่า VI หรือ Value Investment นั้นเป็นศาสตร์ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย เบนจามิน เกรแฮม ที่นักลงทุนหุ้นแนวนี้ถือเป็นบิดาแห่งการลงทุนแนวเน้นคุณค่า ที่ได้วางรากฐานการลงทุนในแนวนี้อย่างแน่นหนา ทำให้การลงทุนแนวเน้นคุณค่ามีหลักการ มีวิธีการ และเป็นขั้นเป็นตอน ถ้าเปรียบก็เหมือนกับบ้านที่มีเสาเข็มแข็งแรง มีพื้นฐานแน่น ไม่โยกคลอนง่ายๆ แถมยังเติบโตขึ้นอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ Value Investor ร่ำรวย มั่งคั่งมาหลายต่อหลายคนแล้วนั่นเอง

หนึ่งในนักลงทุนแนวเน้นคุณค่าที่ร่ำรวยจนติดอันดับโลก และเป็นลูกศิษย์ของ เบน เกรแฮม ก็คือ “วอเรนต์ บัฟเฟตต์” ที่ได้ประยุกต์ใช้แนวคิดของอาจารย์มาลงทุนจนประสบความสำเร็จ แม้ในระยะหลังๆ บัฟเฟตต์ จะใช้แนวทางแค่เพียงบางส่วน และมีการปรับเปลี่ยนแนวคิดการลงทุนต่างไปจากเดิมมากแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป การค้นหาหุ้นสไตล์เกรแฮม หายากขึ้นมาก หรือเรียกว่าแทบจะไม่มี ถึงมีก็เป็นหุ้นที่ไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร เรียกว่า เข้าข่าย “หุ้นถูกถาวร” ก็ว่าได้

การลงทุนแนวเน้นคุณค่าในยุคปัจจุบัน ถูกแตกแขนงออกไปมากมายเมื่อเทียบกับการเติบโตตั้งแต่อดีต มีทั้งแนวเน้นคุณค่าโดยเนื้อแท้ หรือ (Classical Value Investment) การลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Stock) การลงทุนเมื่อเกิดเหตุการณ์ขาดทุนชั่วคราว (One Time Loss Stock) และอื่นๆ อีกมากมาย แต่โดยพื้นฐานก็ล้วนแตกแขนงมาจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั่นเอง

buffet

(วอเรนต์ บัฟเฟตต์ ศิษย์เอกของ เบนจามิน เกรแฮม)

          การลงทุนแนว VI ของผม

สำหรับการลงทุนแนว VI ของผมเองนั้น ได้ประยุกต์ใช้มาหลายปี และอาจแตกต่างจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่าดั้งเดิมค่อนข้างมาก โดยส่วนตัวผมเองชอบลงทุนในหุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock และชอบถือยาวๆ เนื่องจากหุ้นโตเร็ว ถ้าเราลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นของการเติบโต เราสามารถถือไปได้จนกว่าการเติบโตจะอิ่มตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจการนั้นๆ บางครั้งกว่ากิจการจะอิ่มตัวก็ใช้เวลาไม่นาน แต่บางครั้งกว่าจะอิ่มตัวก็อาจใช้เวลานานหลายปี หรือเป็นหลักสิบปีก็มี

จากประสบการณ์ของผมเองนั้น การลงทุนแนวเน้นคุณค่าคือทางออกที่แท้จริงของผู้ที่คิดจะลงทุนหุ้น และต้องการเอาชนะตลาด หรือเปลี่ยนชีวิตจากคนธรรมดา กลายเป็นคนที่มั่งคั่ง ร่ำรวย ได้จริง แต่การที่เราจะได้อะไรมานั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย หรือรวดเร็ว เราต้องสั่งสมประสบการณ์ และลงสนามจริง พร้อมทั้งต้องหมั่นเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ต้องไม่คิดว่าเราเก่งแล้ว เรารู้แล้ว การคิดแบบนี้มักจะนำมาซึ่งหายนะเสมอ

ผมหวังว่าประสบการณ์ที่ผมถ่ายทอดจากการลงทุนจริงจะช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้ และจะเป็น “ทางลัด” คือการได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้ที่เคยพบกับเหตุการณ์ในตลาดหุ้นที่แสนเคี่ยวแห่งนี้มาก่อน อย่าลืมนะครับว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้นมีไม่มาก แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะหยุดความสำเร็จของเรา ยกเว้นคนที่พ่ายแพ้ก็ต้องออกไปเลียแผล แต่สำหรับคนที่มุ่งมั่นจริง “ความสำเร็จ” รอคุณอยู่ข้างหน้าเสมอ ถ้าเราไม่ยอมแพ้ และล้มเลิกไปกลางคันผมเชื่อว่าแนวคิดการลงทุนแบบ VI ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน

            นายแว่นธรรมดา

นายแว่นธรรมดา