รู้ทันหุ้น "การปรับกลยุทธ์เพื่อขยายพอร์ตการลงทุน"

ในอดีตเมื่อตอนที่ผมเริ่มต้นการลงทุนในตลาดหุ้น ผมมีเม็ดเงินไม่มากนัก กลยุทธ์ที่ใช้ในการลงทุนของผมก็คือ[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความนี้กรุณา”]”การออมไว้ในหุ้น” ครับ ซึ่งการซื้อแต่ละครั้งจะใช้หลักมีเงินก็ซื้อเท่าที่มี มีน้อยซื้อน้อย มีมากซื้อมาก ไม่มีก็ไม่ซื้อ กระแสเงินสดที่เข้ามาในชีวิตและนำเอาไปซื้อหุ้น ก็หามาจากการประกอบกิจการส่วนตัว งานประจำ (สำหรับคนที่ทำงานประจำ) และเงินปันผลจากหุ้นเอาไปทบต้นอีกทีหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อพอร์ตของผมขยับขึ้น และเป้าหมายใหญ่ขึ้น กลยุทธ์ที่ผมเคยใช้ในอดีตต้องกลับมาทบทวนใหม่ครับ กลยุทธ์ในวันนี้ของผมจะเน้นการลงทุนด้วยปริมาณ หรือเม็ดเงินที่สูงขึ้น แต่ต้องแม่นยำขึ้น รอบคอบมากขึ้น และทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละท่านย่อมแตกต่างกัน ต้องมองหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเราให้มากที่สุดครับ

จับจังหวะการลงทุน กับนายแว่นธรรมดา

สำหรับการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงผมขอแบ่งออกเป็น 4 ประการ

ประการแรก หุ้นที่เราเลือกลงทุนต้องเป็นหุ้นคุณค่า ต้องมี Value ที่เราสามารถประเมินออกมาได้ Value ดังกล่าวหมายถึง Value ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตครับ ถ้าคิดจะขยับขยายพอร์ตให้โตขึ้น เราต้องเฟ้นหา และประเมินมูลค่าของหุ้นออกมาให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการประกอบกิจการของบริษัท ความยั่งยืน และมั่นคงของธุรกิจ หรือมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทครับ

ประการที่สอง มองหาตัวเร่งทางธุรกิจ ตัวเร่งทางธุรกิจจะเป็นตัวช่วยให้หุ้นที่เราเลือกมีการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การที่หุ้นเติบโตได้เร็วเท่ากับว่ามูลค่าของมันถูกสะท้อนออกมาอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองครับ

ประการที่สาม การวัดมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น สำหรับการวัดมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั้นมีโมเดลมากมายหลายรูปแบบให้นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าอย่างเราเลือกใช้ ซึ่งแต่ละโมเดล แต่ละวิธีนั้น เราเองต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของบริษัท รวมทั้งเหมาะสมกับวิธีคิดของเราด้วยครับ ติดตามเรื่องราวของการวัดมูลค่าหุ้นได้ในบล็อกนายแว่นนะครับ

ประการสุดท้าย การคำนวนหาส่วนเผื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety หรือที่เราเรียกกันว่า “กันชนทางการลงทุน” การที่เราสามารถมองหา และประเมินส่วนเผื่อความปลอดภัยได้ดี จะเป็นกันชนทางการลงทุนไม่ให้เราพลาดพลั้ง หรือลงทุนผิดพลาดครับ ประสบการณ์จะเป็นตัวบอกเราเองว่าเรามีประสิทธิภาพในการคำนวน Margin of Safetyได้ถูกต้องแค่ไหนครับ

อย่างไรก็ตาม… ส่วนตัวผมเองนั้นได้คิด “ส่วนเผื่อความปลอดภัยในใจ” เอาไว้ด้วยครับ มันหมายถึงว่า… ผมยอมขาดทุนได้กี่ % ถ้าขาดทุนมากกว่าที่ผม Limit เอาไว้ บางทีต้องทบทวนว่าเราเลือกหุ้นผิดตัวหรือไม่ครับ การปรับกลยุทธ์นั้นเป็นเหตุเล็กๆ หนึ่งเหตุในชีวิตการลงทุนที่จะเกิดผลตามมาในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนักลงทุนอย่างเรา ก็ควรเคารพการตัดสินใจของตนเอง และพอใจในกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ หากไม่ประสบผลสำเร็จเราต้องพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ใหม่ให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้นะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

[/premium]

1 reply
  1. Waraporn
    Waraporn says:

    อยากเรียนรู้วิธีการเล่นหุ้นให้ได้กำไร

Comments are closed.