(กองทุนรวมไม่ยาก) ตอน… อยากลงทุนหุ้นในจีนผ่านกองทุนต้องทำยังไงบ้าง?

สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่าน คอลัมน์ “กองทุนรวมไม่ยาก” ขอนำเสนอการลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุนรวม โดยบทความนี้จะนำเสนอการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นในตลาดหุ้นจีน โดยผมมองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นจีนช่วงนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศจีน ณ.ตอนนี้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างชัดเจนครับจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามได้เลยครับ

china SCB

ย้อนกลับไปช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนถือว่าเป็นประเทศที่ขยายตัวสูงมาก จากการส่งออก และการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากครับ ผลจากการเติบโตนั้นสามารถทำให้จีนมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว! (อันดับหนึ่งคือ สหรัฐฯ) นอกจากนั้นยังทำให้จีนมีทุนสำรองสูงถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก! แต่ที่ผ่านมาจีนพบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในประเทศ และผ่านวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมามาก เกิดสภาวะที่ “น่าลงทุน” ขึ้นมาทันทีครับ

อย่างไรก็ตามหากเราคิดจะลงทุนหุ้นในประเทศจีน เราต้องศึกษาลึกไปถึงนโยบายทางเศรษฐกิจผ่านผู้นำจีนคนใหม่ คือ นายสี จิ้นผิง ที่ได้มีการประกาศปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจเสียใหม่ แทนการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบฉาบฉวยในอดีต ด้วยการเพิ่มการบริโภค-อุปโภค ในประเทศให้มากขึ้น ลดการพึ่งพาการส่งออก และควบคุมปัญหาดั้งเดิมที่มีมานานคือการทำธุรกรรมผ่านธนาคารเงา หรือ shadow banking ที่เป็นปัญหาเรื้อรังในอดีต ทำให้ภาพของจีนดูสดใสมากขึ้น ประกอบกับราคาหุ้นในตลาดที่ยังไม่สูงมากจนเกินไป น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่งครับ

เมื่อเราพิจารณาดูเราจะพบว่าดัชนีเศรษฐกิจในประเทศจีนส่งสัญญาณดีขึ้น นายกของจีนเคยให้คำมั่นไว้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะโตได้กว่า 7-8% และจะเป็นการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนเพิ่งเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเริ่มลงทุน ทำให้สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติมาดันตลาดหุ้นให้เติบโตได้ไม่ยาก และหากเราดูดัชนีตลาดหุ้นจีน ดัชนี HSCEI นั้น PE 8-10 เท่า ถือว่ายังไม่แพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นบ้านเราที่มี PE สูงกว่า 15 เท่า (ปี 2558) ทำให้ยิ่งน่าสนใจที่จะลงทุนในประเทศจีนเข้าไปอีกครับ

อย่างไรก็ตามการลงทุนหุ้นในประเทศจีนโดยตรงนั้นทำได้ไม่ง่าย แต่ที่ง่ายกว่ามากก็คือการลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้น ซึ่งลงทุนผ่านตลาดหุ้นจีนที่ทางกองได้ “คัดเลือก” มาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ถ้าหากเราอยากลงทุนหุ้นจีนโดยตรงนักลงทุนก็สามารถลงทุนในหุ้นจีนได้ทั้งตลาด A share กะ H share ครับ 

โดยความแตกต่างของ H-share และ A-share มีดังนี้คับ  H-Share คือหุ้นบริษัทจีนที่ list ใน Hong Kong Stock exchange ครับ  ส่วน A Share คือ หุ้นจีนแท้ๆ คือ หุ้นบริษัทจีนที่ list ในตลาดหุ้นจีนที่ Shanghai และ Shenzen ครับ สำหรับ index หลักๆ ของตลาดจีนก็มี 3 ตัวครับ

1)      CSI300 เป็น index ของหุ้น A shares 300 ตัว ที่ list ใน Shanghai และ Shenzhen exchange ครับ

2)      FTSE A50 เป็น index ของ A shares ที่มีmarket cap ใหญ่ที่สุด 50 ตัวครับ

3)      HSCEI เป็นindex หุ้น H share 40 ตัว ครับ

จากที่ได้กล่าวมาแล้ว นักลงทุนคงรู้สึกว่ามัน “ยุ่งยาก” และก็ไม่รู้ว่าจะลงทุนในหุ้นตลาดไหนดี? มาทำให้ง่ายกันด้วยการลงทุนผ่านกองทุนรวมกันดีกว่าครับ  ซึ่งจริงๆ แล้วในท้องตลาดก็มีหลายบลจ.ที่ลงทุนในกองทุนหุ้นจีน  แต่ในเมื่อจะฝากให้ใครดูแลเงินแทนเราแล้ว  ดังนั้นหากจะลงทุนในกองทุนหุ้นจีน คงต้องดูบลจ.ที่ท่านไว้วางใจ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา   และ ต้องฝากความมั่นใจไว้กับผู้จัดการกองทุน “มืออาชีพ” ซึ่งจะทำให้เราได้โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนกลับมาตามที่เราคาดหวังกันครับ

ผมเห็นกองทุนหุ้นจีนของบลจ.ไทยพาณิชย์ ที่เพิ่งจะออกใหม่มา โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาด A-Share ซึ่งน่าสนใจมากทีเดียวครับ เพราะจีนเพิ่งจะเปิดประเทศให้นักลงทุนชาวต่างชาติเข้าลงทุน  อีกทั้งเงินหยวนกำลังจะก้าวขึ้นเป็นเงินสกุลหลักของโลกเลยทีเดียว  ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำกองทุนรวมหุ้นจีนที่น่าสนใจให้เพื่อนๆ ได้พิจารณาก็คือ

กองทุนหุ้นจีน SCBCE SCBCEH  ทุกกองต่างลงทุนใน Hang Seng index ซึ่งเป็นตลาดหุ้นในฮ่องกงที่มีอัตราการเติบโตสูง  ความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6    มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยทำให้นักลงทุนวางใจเรื่องของการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของสกุลเงินที่ใช้ในการลงทุนได้อย่างสบายใจ  ยกเว้นกองทุน SCBCE ที่ไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนครับ ทั้งนี้นักลงทุนสามารถเลือกสรรได้ตามใจชอบเพราะกองทุนหุ้นจีนค่อนข้างมีความหลากหลาย แต่อย่าลืมว่า ความเสี่ยงสูง ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนสูงเช่นกัน

ส่วนอีกกองทุนหนึ่งที่เพิ่งจะเปิดตัวไม่นานมานี้คือกองทุน  SCBCHA ที่ลงทุนในตลาดหุ้นของธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen) ซื้อขายกันในสกุลเงินหยวน (RMB) นั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ก็ยังเติบโตในระดับดีเยี่ยม และถือว่ายังไม่แพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียครับ

ช่วงตรุษจีนเพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน ผมเห็นบลจ.ไทยพาณิชย์เค้ามี Campaign อยู่ครับ ลงทุนในกองทุนจีน ได้รับหน่วยลงทุนกองทองทุกๆ 1 ล้านบาท รับหน่วยลงทุน SCBGOLD มูลค่า 2,000 บาท ไปดูรายละเอียดกันที่ www.scbam.comได้เลยครับ

gold scb

                โดยการลงทุนในหุ้นจีนครั้งนี้มาพร้อมกับแนวคิดที่ว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอนาคตไกล เติบโตมั่นคงอย่างแข็งแกร่ง มีการเปิดประเทศต้อนรับนักลงทุนต่างชาติ ดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ ที่สำคัญตลาดหุ้นจีนเพิ่งเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนไม่นาน และยังจะมีเม็ดเงินอีกมากที่อยากเข้ามาลงทุนในตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก! แถมด้วยความมั่นคงของค่าเงินหยวน ที่จะกลายเป็นสกุลเงินหลักของโลกในอนาคตครับ! อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอนักลงทุนต้องศึกษาการลงทุนอย่างดี พิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยสมาชิกจะได้รับหนังสืออีบุ๊กส์ฟรี 1 เล่มจาก “ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา” มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ… เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ
http://naiwaenstore.com/store/how-to-order/

book store