How to make Cashing Machine : สร้างระบบการผลิตกระแสเงินสดส่วนบุคคลกันดีกว่า

สร้างระบบการผลิตกระแสเงินสดส่วนบุคคลกันดีกว่า

สำหรับคนที่มีเงินเข้าทุกๆ เดือน หรือที่เราเรียกว่า “มนุษย์เงินเดือน” นั้นจะมีกระแสเงินสดไหลเข้าทุกเดือน แต่หลายคนคงรู้สึกว่าเงินเข้ามามันหายไปไหนหมดนะ? ความลับมันอยู่ในการจัดการกระเสเงินสดในชีวิตของคุณนั่นเอง เราลองมาดูกันว่า “วิธีการจัดการกระแสเงินสด” และสร้าง “ระบบ” การผลิตกระแสเงินสดต้องทำอย่างไรกันบ้าง ติดตามกันเลยครับ

ระบบการผลิตกระแสเงินสดของกิจการ

เราสามารถลอกเลียบแบบระบบการผลิตกระแสเงินสดได้จาก “ธุรกิจ” หรือกิจการที่ทำอยู่ นำมาดัดแปลงให้เป็นระบบพื้นฐานส่วนบุคคล โดยพื้นฐานแล้วกิจการจะมีระบบการจัดการกระแสเงินสดแบ่งออกเป็น  5 ส่วนใหญ่ๆ ตามภาพ

Cashing Machine 04

ส่วนแรก ฐานทุน หรือกำไรสะสม

ส่วนสำคัญสำหรับการบริหารจัดการกระแสเงินสด ไม่ว่าจะเป็นกระแสเงินสดส่วนบุคคล หรือกระแสเงินสดของกิจการใดๆ ก็ตาม เราต้องมี “ทุน” เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ วิธีที่จะทำให้เกิดเป็นกำไรสะสม ทำให้งอกเงย โดยฐานทุนจะเริ่มต้นจากการออมเงินนั่นเอง … สำหรับผมแล้วการประหยัดอดออมนั้นเป็นเรื่องดี แต่การออมเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราร่ำรวยได้ วิธีการก็คือ ทำให้เงินออมสะสมจนถึงระดับหนึ่ง และนำเงินออมไปต่อยอดทำมันให้งอกเงย

ส่วนที่สอง เงินลงทุน

เมื่อเรามีฐานทุนแล้ว เราควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งออกมาลงทุน ส่วนนี้ผมเรียกมันว่า “เงินลงทุน” โดยเงินลงทุนที่เหมาะสมควรแบ่งออกมาจากฐานทุนอย่างน้อยที่สุด 20% ของเงินทุนที่เรามีอยู่ควรมีปริมาณที่มากพอที่จะนำเงินไปต่อยอดให้เห็นผล เพราะหากเงินน้อยเกินไปก็จะมี Impact ที่น้อยตามไปด้วย

อย่างไรก็ตามความหมายของ สินทรัพย์เพื่อการลงทุน ไม่ได้หมายถึงเงินแต่เพียงอย่างเดียว “ความคิดดีๆ” ไอเดียโดนๆ ก็ถือเป็น “สินทรัพย์” ได้เช่นเดียวกัน และมันก็เป็นหนึ่งในฐานทุน ที่เราสามารถแบ่งไอเดียบางส่วนมาสร้างกระแสเงินสดได้เช่นกันนะครับ

ส่วนที่สาม “เครื่องผลิตกระแสเงินสด”

ส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่สำคัญของระบบการผลิตกระแสเงินสด การสร้างเครื่องผลิตกระแสเงินสดนั้นวัตถุดิบ ได้แก่ เงินทุน และไอเดียสร้างสรรค์ บวกกับแรงบันดาลใจรักที่จะทำมันจากส่วนลึกของใจเราเอง ส่วนประกอบของเครื่องผลิตกระแสเงินสดนั้นมีหลากหลาย แต่สำหรับผมแล้วมีดังต่อไปนี้

  • เงินลงทุนในหุ้น หรือกองทุนรวม โดยปกติแล้วส่วนนี้จะให้ผลตอบแทนราวๆ 5-10% ต่อปี
  • การทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนนี้ผลตอบแทน และผลขาดทุนกว้างมากครับ
  • การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉลี่ยผลตอบแทนระยะสั้นจะพอๆ กับการลงทุนในกองทุนรวม ยกเว้นคุณจะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือเป็นผู้ที่ลงทุนระยะยาวกับอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดิน
  • งานลิขสิทธิ์ หรือสิทธิบัตร ส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับไอเดียดีๆ หากคุณเป็นนักประดิษฐ์ หรือนักนวตกรรม แม้แต่เป็นนักเขียน คุณก็สามารถสร้างงานลิขสิทธิ์ และจดสิทธิบัตรงานของคุณได้ แน่นอนที่สุดว่ามันสามารถสร้างกระแสเงินสดให้คุณได้
  • อื่นๆ ถ้าคุณคิดออก …

ถ้าทุกอย่าง “ถูกต้อง” ถูกที่ถูกทางมันจะเกิดเป็นกระแสเงินสด และถ้ามันเริ่ม “หมุน” มันจะไหลเวียนเป็นระบบ

original

ส่วนที่สี่ หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้

ส่วนนี้เปรียบเหมือนกับการทดเกียร์ให้สูงขึ้น เร่งความเร็วให้กับเครื่องยนต์ หากคุณแน่ใจพอ และคิดว่าไอเดียบางอย่างมันโอเค เราสามารถเปลี่ยนมันเป็นกระแสเงินสด ด้วยการเสนอไอเดียกับแหล่งทุน เพื่อทำให้เกิดธุรกิจเจ๋งๆ ขึ้นมา ในปัจจุบันมีแหล่งระดมทุนมากมาย ธุรกิจเหล่านี้มักถูกเรียกว่าพวก START UP

คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าการมีหนี้สินเป็นเรื่องที่แย่ นั่นมันจริงกับการก่อหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ เช่น ซื้อมือถือใหม่ ซื้อรถยนต์คันใหม่ หรือใช้บัตรเครดิตรูดใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย แต่มันไม่ใช่สำหรับหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ อันได้แก่ หนี้จากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นกระแสเงินสด หรือหนี้จากการก่อร่างสร้างธุรกิจ

ส่วนที่ห้า “กระแสเงินสด”

ถ้าทุกอย่าง “ถูกต้อง” ถูกที่ถูกทางมันจะเกิดเป็นกระแสเงินสด และถ้ามันเริ่ม “หมุน” มันจะไหลเวียนเป็นระบบ โดยกระแสเงินสุดจะถูกสะสมให้เป็น “กำไรสะสม” ที่ฐานทุน และระบบเริ่มหมุน เพื่อผลิตกระแสเงินสดมากขึ้น สะสมเป็นกำไรสะสมมากขึ้น นำกำไรสะสมมาลงทุนต่อ เข้าเครื่องผลิตกระแสเงินสด เกิดเป็นกระแสเงินสด ไหลเวียนไปเรื่อยๆ ผมเรียกมันว่า “วงจรแห่งความมั่งคั่ง”

อย่างไรก็ตามการที่จะทำให้เกิดระบบผลิตกระแสเงินสดมันจะยากในตอนแรก แต่มันจะเริ่มง่ายขึ้นในตอนท้ายๆ และพอมันไหลเวียนไปเรื่อยๆ เราผู้เป็นเจ้าของสามารถถอยตัวออกมา ให้มันผลิตกระแสเงินสดให้เราแบบ “อัตโนมัติ” ฟังดูเหมือนง่ายใช่มั้ยครับ แต่ผมขอบอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลย และมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะตัดสินใจลุกขึ้นมา และลงมือทำทันที

>>> How to make Cashing Machine

‪#‎เคล็ดลับเศรษฐี‬

“หยุดคิด จงใช้จินตนาการ”

เศรษฐีส่วนใหญ่จะรู้ว่าการคิดนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่โอกาสที่เราจะคิดผิด และหลงเข้าไปในความคิดมีสูงมาก เมื่อเราคิดจนสุดทางแล้วยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ให้หยุดคิด และหันมาใช้จินตนาการแทน การคิดมากจนเกินไปจะทำให้เราวนอยู่ในความคิดของตนเอง เศรษฐีคนดัง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต่างก็หันมาใช้จินตนาการแทนความคิด เมื่อความคิดไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อีก จงใช้จินตนาการ …

ติดตามเรื่องราวของการบริหารจัดการเงินให้มั่งคั่ง และมีความสุขได้ที่นี่ครับ www.naiwaen.com

และเรื่องราวของการเปลี่ยนอสังหาให้เป็นกระแสเงินสดที่นี่www.topofliving.com

จินตนาการ

หนังสือเปลี่ยนชีวิต : ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ผ่านหุ้นอสังหาฯ

ปก หุ้นอสังหาสวัสดีเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่านครับ… ที่มาของหนังสือเล่มนี้มาจากการที่ผม นายแว่นธรรมดา ได้กระโดดเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ 3 ธุรกิจ อันได้แก่

1) ผมลงทุนเก็งกำไร กับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการซื้อคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า ซื้อคอนโดมิเนียมปล่อยขาย ซื้อทาวน์เฮ้าส์ปล่อยเช่า และปล่อยขาย

2) ผมทำกิจการ “สื่อ” ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการก่อตั้งเว็บ www.topofliving.com

3) ผมลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการซื้อหุ้นอสังหาฯ

การที่ผมเข้าไป “คลุกคลี” กับวงการอสังหาฯ ทำให้ผมรู้สึกว่า… “อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ” นั่นคือจะมีการเติบโตครั้งใหม่เกิดขึ้น!

ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้น? ไปหาคำตอบกันเลยครับ…

บทนำ : “ภาพใหญ่” ของประเทศไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร? เกี่ยวข้องกับหุ้นอสังหาหรือไม่?

บทที่ 1 : ภาพตลาดโดยรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

บทที่ 2 : ข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ บอกอะไรเราได้บ้าง

บทที่ 3 : Back Log หุ้นอสังหาริมทรัพย์ บอกอะไรเราได้บ้าง

บทที่ 4 : ทำไมคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้าจึงเป็นที่นิยม

บทที่ 5 : เรื่องที่ต้องรู้ เมื่อวิเคราะห์หุ้นอสังหาริมทรัพย์

บทที่ 6 : เปรียบเทียบการลงทุน

บทที่ 7 : วิเคราะห์งบการเงิน หุ้นอสังหาริมทรัพย์ บอกอะไรเราบ้าง?

คลิ๊กรายละเอียดหนังสือที่นี่เลยครับ

อ่านหุ้นที่เกี่ยวข้อง และหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ “คลิ๊กเลย”

อ่านทุกเรื่องราวของความสำเร็จที่คุณทำได้อย่างแน่นอน “คลิ๊กอ่านที่นี่”