Safety Investor ตอน “Character ของหุ้น กับการลงทุนอย่างปลอดภัย

Character ของหุ้นคือ รูปแบบ หรือผมขอเรียกให้เก๋ๆ ว่า “ลักษณะนิสัย” ของหุ้นแต่ละตัวที่นักลงทุนเฝ้าติดตามมาตลอดจะรู้ดีว่า… หุ้นแบบนี้มี “นิสัย” แบบไหน คำว่านิสัยของหุ้นนั้นมันจะเป็นตัวบ่งบอกกลายๆ ว่า หุ้นตัวนั้นดีหรือไม่ดี ปลอดภัยหรือไม่ มาดูกันครับว่าลักษณะนิสัย หรือ Character ของหุ้นนั้นมีอะไรบ้าง และจะลงทุนอย่างปลอดภัยให้เหมาะกับนิสัยของหุ้นได้อย่างไร ติดตามได้เลยครับ

Safety Investor นายแว่นธรรมดา

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

หุ้นมีนิสัยคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง

หุ้นประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มักจะไม่โต หรือเติบโตอย่างช้าๆ แต่มีความมั่นคง แน่นอนสูง เราสามารถสังเกตได้จากการที่บริษัทจดทะเบียน ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับงบการลงทุนใหม่ๆ ส่วนใหญ่แล้วรายได้จะมาจากการค้าขายแบบเดิมๆ ยกตัวอย่างเช่น ซอสยี่ห้อเดิมๆ มีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่น บริษัทแบบนี้ไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรใหม่ๆ เพราะเครื่องจักรที่ใช้ก็จะเหมือนเดิม ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย สิ่งที่ทำให้รายได้สม่ำเสมอ และกำไรคงที่ หรือเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ก็คือ ยี่ห้อสินค้าของบริษัท ที่มีคนชื่นชอบมานาน และไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ ข้อดีของหุ้นนิสัยแบบนี้ คือ ความสม่ำเสมอ นานๆ ทีจะมีอารมณ์ขึ้น หรือลงบ้าง เมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ มากระทบ แต่หากเป็นเหตุการณ์ปกติบริษัทที่ไม่มีการลงทุนอะไรใหม่ๆ ก็จะปันผลออกมา หากเรารักหุ้นที่มีนิสัยคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ แบบนี้ ก็ควรเลือกหุ้นที่มีเงินปันผลสูงๆ เข้าไว้ครับ เพราะลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์เก่าแก่ หากหมดกำลังซื้อไปหุ้นแบบนี้ก็จะกลายเป็น “ตะวันตกดิน” เอาง่ายๆ ครับ

หุ้นที่มีนิสัยชอบความท้าทาย

หุ้นประเภทนี้มักจะมีข่าวเกี่ยวกับการ “บุกเบิก” ธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจ แต่นักลงทุนผู้ปลอดภัยก็ควรระวังให้ดีว่าการบุกเบิกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ๆ ที่อาจไม่มีความชำนาญ จะก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่าที่จะทำให้เกิดผลดีก็เป็นไปได้ครับ วิธีสังเกตหุ้นนิสัยแบบนี้เราจะพบว่ามีการเติบโตของรายได้มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกไตรมาส ทุกปี หากเราส่องงบลงทุนก็จะพบว่ามีงบลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นกิจการเดิม แต่มีการขยับขยาย ก็จะมีงบการตลาดที่สูง หากหุ้นแบบนี้เติบโตจนเกิด “การประหยัดต่อขนาด” หรือ Economic of Scale ทำให้อำนาจการต่อรองสูงขึ้น จะทำให้ต้นทุนลดลงอย่างรวดเร็ว เงินจะเหลือมากขึ้น ผู้บริหารก็จะนำเงินไปประชาสัมพันธ์ ทำการตลาด เพื่อรักษา “ภาพลักษณ์” ของสินค้า หรือบริการครับ เราจะสังเกตเห็นการอัด “งบโฆษณา” ที่มากขึ้น แสดงว่าหุ้นแบบนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองครับ

วิธีคบหาดูใจกับหุ้นประเภทนี้ ก็ควรจะคบกันยาวๆ ซื้อแล้วถือไว้ ตราบเท่าที่ยังเติบโตอยู่ และควรหมั่นติดตามการดำเนินงานของผู้บริหารเป็นระยะๆ เพราะผู้บริหารที่มีความท้าทายอยู่เสมอ จะส่งผลดีต่อหุ้นแบบนี้ แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือ การขยายงานไปสู่ธุรกิจที่ไม่ถนัด เพราะหากเร่ง “บุกเบิก” ไปยังสถานที่ใหม่ๆ ไม่คุ้นเคย ก็อาจสะดุด และเจ็บตัวได้ครับ

หุ้นชอบการค้นคว้าอะไรใหม่ๆ

หุ้นแบบนี้มักให้ความสำคัญกับการค้นคว้าหาสิ่งใหม่ๆ หรือ มุ่งเน้นไปที่ “การวิจัย และพัฒนา” สินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ หุ้นประเภทนี้อาจจะยังพบเห็นไม่มากนักในบ้านเรา แต่ถ้าเป็นหุ้นต่างประเทศ ก็มักเป็นหุ้นเทคโนโลยี เช่น แอ๊ปเปิ้ล ซัมซุง ที่มีหน่วยวิจัยและพัฒนา หรือ R&D เป็นเรื่องเป็นราว หรือหุ้นประเภท “เทคโนโลยีชีวภาพ” สมัยใหม่ ที่ช่วยในด้านสุขภาพ ช่วยยึดอายุของมนุษย์ยุคใหม่ ในต่างประเทศหุ้นแบบนี้จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจาก การวิจัย และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ หากประสบความสำเร็จก็จะทำเงินได้มหาศาล แต่ข้อเสียคือ หากล้มเหลวก็จะต้องเสียเงินไปเปล่าๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทที่มีการแข็งขันกันสูง ก็จะยิ่งทุมงบวิจัยมากเท่านั้น ในอดีตอาจารย์ ฟิลิป พิชเชอร์ นักลงทุนประเภท Growth Stock (หุ้นโตไว) ก็ชอบหุ้นแบบนี้ครับ สำหรับเมืองไทยผมเข้าใจว่านักลงทุนคงต้องรออีกซักระยะจึงจะได้เห็นรูปแบบของบริษัทแบบนี้

 

หุ้นที่มีนิสัยขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน

หุ้นลักษณะนิสัยแบบนี้ สำหรับนักลงทุนผู้ปลอดภัยแล้วถือว่า “คบหาดูใจยากที่สุด” ส่วนใหญ่แล้วการประกอบกิจการของหุ้นแบบนี้จะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นหุ้นประเภท “วัฏจักร” (เข้าไปอ่านประเภทของหุ้นได้ที่ “หุ้น 5 พารวย”) คือ ขึ้นๆ ลงๆ ตามสภาวะตลาดโลก ไม่แน่นอน สินค้าที่เป็นแบบนี้มักเป็นสินค้าที่หน้าตาเหมือนๆ กัน ไม่มีอะไรแตกต่าง เช่น น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ สินค้าเกษตรฯ เป็นต้น การคบหาดูใจกับหุ้นประเภทนี้เราต้องทำใจไว้เลยว่า… “อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ทุกเมื่อ” การเข้าถือหุ้นควรรอจังหวะที่หุ้นตกต่ำถึงขีดสุด สังเกตได้จากคู่แข่งทางธุรกิจเริ่มตายจากไปเรื่อยๆ และควรขายทำกำไรทันทีที่หุ้นเข้าสู่วัฏจักร “ขาขึ้น” ไม่ควรฝังอกฝังใจรักหุ้นประเภทนี้มากจนเกินไปครับ หากเราเก่งพอ และลงทุนกับหุ้นนิสัยขึ้นๆ ลงๆ ได้ถูกจังหวะ เราก็จะร่ำรวยได้อย่างรวดเร็วครับ

หุ้นที่นิสัยชอบหลอกล่อ

หุ้นประเภทนี้ผมขอเรียกว่า “หุ้นปั่น” หุ้นปั่นมักจะมีเจ้าของ (จ้าวมือ) ที่เป็นเจ้าถิ่นเก่า หากเราหลงเข้าไปรัก เข้าไปชื่นชม นักลงทุนก็จะโดนเจ้าถิ่นเก่าทำร้ายเราได้ครับ นักลงทุนผู้ยึดหลักการปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงหุ้นประเภทนี้ให้ไกลเท่าที่จะไกลได้ครับ ไม่ควรเข้าใกล้เลยจะดีที่สุด ลักษณะโดยทั่วไปของหุ้นที่ชอบหลอกล่อ ก็คือ มักจะมีพื้นฐานย่ำแย่ มีผลการขาดทุนมาเนิ่นนาน มีประวัติที่ไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่มีเจ้าถิ่นเป็นผู้บริหารเสียเอง มักมีโครงข่ายบริษัทที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน มีการเปิดบริษัทยังต่างประเทศ (ประเทศที่ไม่มีกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน) หากผมพบเจอว่าบริษัทไปเปิดบริษัทย่อยที่ต่างประเทศที่ไม่น่าไว้ใจ ผมจะตัดใจ และหลีกเลี่ยงการลงทุนกับหุ้นแบบนี้ทันทีครับ

หุ้นนิสัยต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมานั้น เป็นเพียงหนึ่งในหุ้นหลายๆ แบบในตลาด การที่ผมยกเอาลักษณะนิสัยมาเปรียบเปรยก็เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เราควรหมั่นศึกษานิสัยหุ้นให้ดี และลองปรับไปใช้กับการลงทุนอย่างปลอดภัยกันนะครับ สำหรับการลงทุนในหุ้นนั้น นักลงทุนผู้ปลอดภัยควรเน้นหุ้นพื้นฐานดี และมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ส่วนวิธีการ “ส่อง” หุ้นดี มีอนาคตนั้น ไว้จะกล่าวในบทความต่อๆ ไปนะครับ

(นายแว่นธรรมดา)

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดาครับ ใครยังไม่สมัครต้องรีบหน่อยนะครับ ของแถมล็อตนี้ใกล้หมดละครับ สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

owl naiwaen tammada