เจาะหุ้นวีไอไม่เสี่ยง : เกาะกระแสอสังหาฯ กับ หุ้นตกแต่งภายใน BKD

เกาะกระแสอสังหาฯ กับ หุ้นตกแต่งภายใน BKD

บทนำ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หุ้นที่เกี่ยวข้องเกาะกระแสการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องบอกว่า “โดดเด่น” และเติบโตอย่างน่าสนใจก็คือ หุ้น BKD ที่มีการเติบโตอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของ Net Profit Margin หรือ NPM ที่สามารถโตจาก 2.46% เพิ่มขึ้นเป็น 14.18% ในปัจจุบัน อะไรคือเบื้องหลังของการเติบโตนี้ เรามาหาเหตุผล และคำตอบกันเลยครับ

นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ

คุณ นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD

เรื่องราวของ BKD คืออะไร?

เรื่องราวของหุ้น BKD นั้นเป็นเรื่องราวของการออกแบบตกแต่งภายใน โดยการเติบโตของกิจการจะเกาะไปกับกระแสการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ การเติบโตไปกับการเกิดขึ้นของอาคารสำนักงานใหม่ โรงแรม โรงพยาบาล และการที่สถานที่ต่างๆ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าจะต้องมีการ Renovate ทุกๆ 5 ปี เพื่อให้ทรัพย์ต่างๆ นั้นดูดีอยู่เสมอ ในส่วนตัวแล้วผมเข้าใจว่าหุ้นตัวนี้เป็นกลุ่ม “รับเหมา” ที่เป็นกลุ่มย่อยในกลุ่มหุ้นอสังหาริมทรัพย์นั่นเองครับ

โดยลักษณะธุรกิจของ BKD คือ

1) รับเหมาตกแต่งภายในอาคาร ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ

2) ผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปตามคำสั่งซื้อลูกค้า

KEY SUCCESS FACTOR ของ BKD คืออะไร?

ตัวเลขของรายได้ของ BKD นั้นมาจากอาคารใหม่กว่า 80% และจากการ Renovate ตึกเก่ากว่า 20% โดย Key Success หรือ “กุญแจแห่งความสำเร็จ” ของกิจการ BKD จะมาจากการทำ Prefab หรือแผ่นตกแต่งสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงาน และนำไปติดตั้งแบบสำเร็จรูปหน้างาน สามารถลดเวลาการตกแต่งจากหลักเดือน เหลือหลัก 2-3 วันเท่านั้นเอง!

กุญแจความสำเร็จของ BKD อีกประการก็คือ การรับงานที่มีมูลค่าหลักร้อยล้านบาทขึ้นไป (ที่จริงรับอยู่ราวๆ 300-500 ล้านบาท) ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “อำนาจต่อรองกับ Supplier” เพราะงานที่รับมีปริมาณสูงไม่ใช่งานยิบย่อยทำให้สามารถต่อราคาวัตถุดิบได้ ทำให้ต้นทุนลดลงนั่นคือที่มาของการเพิ่มขึ้นของ NPM นั่นเองครับ

งานในอนาคตของ BKD คืออะไร?

สำหรับงานในอนาคตของ BKD นั้น ผู้บริหารมีแนวคิดที่จะเพิ่มยอดขายจากเดิมอยู่ราวๆ 1,000 ล้านบาทต่อปี ให้กลายเป็น 2,000 – 5,000 ล้านบาท โดยมีเรื่องราวของการออกไปตกแต่งภายนอกประเทศ ด้วยการเกาะกระแส AEC โดยล่าสุดได้ไปรับงานหมู่บ้านจัดสรร ณ.ประเทศ กัมพูชา โดยมีการเซ็นต์สัญญาจ้างเป็นที่เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักของ BKD ยังคงเป็นภาครัฐกว่า 80% และเป็นเอกชน 20% ซึ่งต้องอาศัยการประมูลงาน และมักจะทำให้สัดส่วนของ NPM ลดลง เนื่องจากภาครัฐมักจะประมูลงานให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด และสิ่งที่เราต้องพิจารณาเพิ่มเติมก็คือ Capacity หรือความสามารถในการผลิต Prefab ของบริษัท โดยผู้บริหารแจ้งยอดขายเป้าหมายก็หมายความอ้อมๆ ถึงขนาดการผลิตของโรงงานนั่นเองครับ

“Key Success หรือ “กุญแจแห่งความสำเร็จ” ของกิจการ BKD จะมาจากการทำ Prefab หรือแผ่นตกแต่งสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงาน”

ตลาดอสังหาฯ กับหุ้นรับเหมาตกแต่งสัมพันธ์กันอย่างไร?

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นหุ้น BKD จะเป็นกิจการที่เกาะไปกับการเติบโตของกระแสอสังหาฯ สิ่งที่เราต้องพิจารณาก็คือ การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์นั้น เรื่องราวของการตกแต่งจะมาท้ายสุด หรือเรียกว่าเป็น “อุตสาหกรรมปลายน้ำ” โดยธรรมชาติของอุตสาหกรรมแบบนี้จะตั้งราคาสูงมากไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของกิจการอสังหาที่เป็นผู้จ้างงานจะเหลืองบประมาณน้อยลงแล้ว

เมื่อการตกแต่งถือเป็นอุตสาหรรมปลายน้ำ หากภาพรวมของอสังหาฯ ตกต่ำลง ธุรกิจรับเหมาตกแต่งจะลงตามทีหลังสุด หรือได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มท้ายๆ และด้วยธรรมชาติที่ขึ้นราคามากไม่ได้เพราะเป็นปลายน้ำแล้ว ทำให้กิจการรับเหมาต้องไปบีบเอากับ Supplier แทน สิ่งที่ต้องพิจารณาอีกอย่างก็คือ เรื่องราวของ “ช่างฝีมือ” ที่เป็นกุญแจสำคัญของกิจการนี้ ที่ต้องเก็บตัวเอาไว้ และอาจมีการแย่งชิงช่างฝีมือดีๆ ก็เป็นไปได้ครับ

ด้วยความที่เป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพิงช่างฝีมือ เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำมาถึง จะต้องเลี้ยงช่างฝีมือเอาไว้ จะเอาออกไม่ได้ เพราะหากยามเศรษฐกิจกลับมาดี ความต้องการช่างฝีมือก็จะกลับมานั่นเอง

หุ้นรับเหมาตกแต่งมีความเป็นวัฏจักรหรือไม่?

ด้วยความที่เนื้อแท้ของกิจการเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถตั้งราคาสูงๆ ได้ แต่ในยามที่เศรษฐกิจดี อสังหาริมทรัพย์เริ่มบูม ด้วยจำนวนผู้รับเหมาตกแต่งที่มีเท่าเดิม และข้อจำกัดของช่างฝีมือ ในยามที่ดีๆ ก็จะสามารถต่อรองกับลูกค้าได้ ทำให้ NPM นั้นบวมขึ้นในยามขาขึ้น แต่หากเศรษฐกิจตกต่ำก็จะเกิดการแย่งลูกค้า และ NPM ก็จะตกลง ดังนั้นกิจการแบบนี้ถือเป็นวัฏจักรอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ

เมื่อเรารับรู้ว่าหุ้นแบบนี้มีความเป็นวัฏจักร การลงทุนนั้นเราจะให้มูลค่าสูงมากๆ ไม่ได้ แต่ในยาม “ขาขึ้น” เราสามารถเกาะไปกับกระแสการเติบโตได้เช่นกัน เราลองมาประเมินมูลค่าหุ้นตัวนี้กันดีกว่าครับว่าหุ้นแบบนี้ควรมีมูลค่าเท่าไรกันแน่? สำหรับสมาชิกเว็บอ่านบทความเพิ่มเติมแบบ Exclusive กรุณา Login หรือสมัครสมาชิกที่นี่ “คลิ๊กเพื่อสมัครสมาชิก” [hide for=”!logged”] 

วัดมูลค่าหุ้น BKD

จากการประเมินมูลค่าหุ้นโดยใช้สมมติฐานการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีระยะเวลาการเติบโตในรอบนี้ราวๆ 5 ปี ตามกระแสการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ จะพบกว่า การเติบโตของ BKD ทำให้เราประมาณการเติบโตในอนาคตแบบ Conservative โดยการเติบโตของรายได้ในปีที่ 5 จะไปแตะ 1.5 พันล้านบาท แต่การเติบโตของกำไรนั้นเร็วกว่ามาก โดยโตจากหลักสิบกว่าล้านจนอาจไปสูงกว่า 200 ล้านบาทต่อปี!

BKD Valuation

เมื่อเราพิจารณากระแสเงินสดในปัจจุบันของ BKD พบว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หรือ Operating Cash Flow ในปีปัจจุบัน (2558) สูงกว่า 140 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิที่ควรจะเป็นอยู่ราวๆ 100 – 150 ล้านบาทต่อปี จัดได้ว่าบริษัทนี้เป็นกิจการที่มีกระแสเงินสดดี และกำไรสุทธิดีมากๆ (อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงขาขึ้นของวัฏจักรก็เป็นไปได้ครับ)

ประเมินมูลค่าจาก EV/EBIDTA

เมื่อเราลองประเมินมูลค่าจาก EV/EBITDA ลองคำนวณได้ดังต่อไปนี้

EV = Market Cap + หนี้สิน = 2,900 + 280 = 3,180 ล้านบาท

EBITDA ล่าสุด = 230 ล้านบาท

ดังนั้น EV/EBITDA = 3,180/230 = 13.80 เท่า

ตัวเลขนี้หมายถึงความถูกแพงของกิจการ (คล้ายๆ กับ PE นะครับ) ตัวเลขออกมาที่ 13-14 เท่า ถือว่าแพงไปนิดสำหรับหุ้นที่มีความเป็นวัฏจักรแบบนี้ครับ ถ้าจะให้ดีควรรอให้ตัวเลขนี้ต่ำกว่า 10 เท่า จะเป็นการซื้อที่มี Margin of Safety โดยคุณผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านแนวคิดการ “วัดมูลค่าหุ้น” คลิ๊กที่นี่ครับ

ข้อสรุปของการลงทุนในหุ้น BKD สิ่งที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก็คือ วัฏจักรขาขึ้น ของการรับเหมาตกแต่งบ้านกำลังจะหมดไปหรือยัง เข้าสู่ช่วง “ขาลง” หรือไม่ หากเราประเมินแล้วคิดว่ายังคงเป็นช่วง “ขาขึ้น” เราก็ควรซื้อหุ้นในราคาที่มี Margin of Safety เพื่อความปลอดภัยในการลงทุนนะครับ

NAIWAENTAMMADA

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/hide]

อ่านทุกเรื่องราวของหุ้นอสังหา คลิ๊กอ่านต่อที่นี่เลยครับ

[เกี่ยวกับผู้เขียน]

promotion naiwaenนายแว่นธรรมดา ผู้แต่งหนังสือขายดี  “รวยหุ้นวีไอไม่เสี่ยง” และหนังสือ “ลงทุนคอนโดไม่ยาก” และผู้ก่อตั้งเว็บ www.naiwaen.com และ www.topofliving.com ผมขออาสาถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ให้เพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่านได้อ่านแบบเข้าใจง่าย ติดตามกันให้ได้นะครับ

#ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว : ปัญหาของนักลงทุนหุ้นโตเร็วก็คือ มองหุ้นโตเร็วไม่ออก มองภาพใหญ่ไม่ชัดเจน และจัดพอร์ตไม่เป็น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ “ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว” ติดตามได้ที่นี่เลยครับ

‪#‎ช่องทางการติดตามข้อมูล‬ ‪#‎นายแว่นธรรมดา‬

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการติดตามข้อมูล โดยเฉพาะสมาชิกเว็บ www.naiwaen.com ท่านสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ [email protected]

หรือเข้าไปติดตามบทความในรูปแบบคลิ๊ปเสียงที่ https://www.youtube.com/channel/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw

เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดที่บล็อกพันทิป http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=naiwaentammada(ปัจจุบันมียอดเพจวิวกว่า 3.1 ล้านวิว)

หรือยังไม่จุใจท่านยังสามารถเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่นี่ครับ https://plus.google.com/u/0/118319315169248364407

สำหรับเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์… เพื่อนๆ สามารถเข้าไปหาข้อมูลที่ต้องการได้ที่นี่ www.topofliving.com

และเตรียมพบกับเว็บบอร์ดคุยเรื่องหุ้นเร็วๆ นี้นะครับ

ยินดีต้อนรับทุกท่าน อีโมติคอน grin
สำหรับ “นายแว่นธรรมดา” แล้วเราจะทำให้เพื่อนๆ ทุกท่าน

“มีชีวิตที่ง่าย และดี”