รู้หลักการตลาดไม่ยาก : "อนาคตทีวีดิจิตอล กับ นายทุนใหม่ที่เข้ามาซื้อกิจการ"

“อนาคตทีวีดิจิตอล กับ นายทุนใหม่ที่เข้ามาซื้อกิจการ”

ทีวีดิจิตอล เป็นคำที่คุ้นหูเราชาวไทยมากว่า 2 ปีแล้ว หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนระบบการกระจายสัญญาณโทรทัศน์ จากระบบ ‘อนาล็อก’ ให้เป็นระบบ ‘ทีวีดิจิทัล’ โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (หรือ กสทช. นั่นเอง) ซึ่งจากการปรับเปลี่ยนตั้งแต่เริ่มต้น มาจนถึงปัจจุบัน (ปลายปี 2559) จำนวนช่องทีวีดิจิตัลได้มีจำนวนที่ลดลง โดยในปัจจุบันมีจำนวนช่องเหลือเพียง 22 ช่อง จากจำนวนเริ่มต้น ที่สามารถมีได้มากถึง 40 ช่อง

289_1

 

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการหดหายไปของสื่อในวงการธุรกิจสื่อดิจิทัล

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการหดหายไปของสื่อในวงการธุรกิจสื่อดิจิทัล น่าจะมาจากเรื่องการขาดทุนในการดำเนินการ ทำให้ไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มีมากเกินความสามารถของตัวเองนั้นเอง ซึ่งสื่อบางกลุ่ม อาจถึงขั้นต้องยุบตัวเองออกไป แต่ในขณะที่ สื่อบางกลุ่ม จะมีการทำข้องตกลงกับกลุ่มทุนธุรกิจที่มีความสนใจในการมีช่องทีวีของตัวเองได้ ซึ่งทำให้บางช่อง บางสื่อ ยังสามารถหาเพิ่มจำนวนทุนเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการทีวีดิจิตัลต่อไปได้นั่นเอง แต่การเข้ามาของกลุ่มทุนธุรกิจ หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “กลุ่มนายทุน” จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของช่องทีวีดิจิตัลอย่างไร ลองมาวิเคราะห์กันแบบง่ายๆ โดยใช้การเข้ามาร่วมทุนระหว่าง “ไทยเบฟเวอเรจ” หรือที่เรียกกันว่า “อาณาจักรเบียร์ช้าง” กับ “บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN)” เป็นตัวอย่าง

GROWTH-INVESTOR-กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโตเร็ว2การเพิ่มทุนและขายหุ้นของ “กลุ่มอมรินทร์” เกิดจากการที่ AMARIN ประสบภาวะผลการประกอบการขาดทุนจากการดำเนินการในส่วนของทีวีดิจิตัลในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งกลุ่ม AMARIN เรียกได้ว่า แม้จะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ในเรื่องของธุรกิจทีวีดิจิตัลแล้ว กลุ่ม AMARIN ยังคงเป็นหน้าใหม่ และยังอยู่ในช่วงการเริ่มต้นธุรกิจการสื่อสารด้านนี้อยู่นั่นเอง ดังนั้น จึงมีความต้องการจำนวนเม็ดเงินในการเริ่มต้นธุรกิจเป็นจำนวนมาก เอาแค่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ชำระค่าบริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลรายเดือน ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ บวกกับ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธุรกิจสิ่งพิมพ์ ที่เครือ AMARIN เอง ยังคงต้องเผชิญหน้ากับความท้ายทายต่างๆเหล่านี้ จึงทำให้การเข้ามาของ “บริษัท วัฒนภักดี จำกัด หรือ ไทยเบฟฯ” มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินการของกลุ่ม AMARIN เอง

การเข้ามาของนายทุนจะก่อให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

การเข้ามาของนายทุน จะทำให้ธุรกิจสื่อได้ “เงินลงทุน” เพิ่มเติมอย่างแน่นอน เพราะจากภาระค่าใช้จ่ายต่างๆที่มีอยู่ รรวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จากจำนวนช่องที่เพิ่มมากขึ้น แต่ฐานผู้บริโภคยังคงมีจำนวนใกล้ๆเดิม ทำให้ธุรกิจที่มีเม็ดเงินที่หนากว่า ย่อมจะได้เปรียบกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนเงินในการประกอบกิจการน้อยกว่าอย่างแน่นอน รวมถึง การที่พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่มีการรับสื่อที่หลากหลาย และแตกต่างกัน ทำให้การขยายตัวของกลุ่มธุรกิจสื่อให้เป็น “Multi-Platform” และเน้นการ “ผสมผสาน” ระหว่างการสื่อสารในระบบทีวีดิจิตัลเข้ากับการสื่อสารออนไลน์ ย่อมจะมีส่วนทำให้เจ้าของสื่อสามารถส่งสารถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดมากขึ้น  ส่วนในด้านของนายทุน การมีสื่อของตัวเองในมือ ย่อมทำให้การประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ รวมถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกลุ่มธุรกิจในเครือ เป็นไปได้ง่ายขึ้นเช่นกัน  โดยเฉพาะ ธุรกิจของกลุ่มไทยเบฟฯ ซึ่งแบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า, กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน, กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ทำให้การเข้าถึงของสินค้าเหล่านี้ ไปสู่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ชมของช่อง  AMARIN เป็นไปได้โดยง่ายขึ้นนั่นเอง อย่าลืมว่า สื่อโทรทัศน์ เป็นสื่อหลักของประเทศไทย ที่มีคนดูเป็นจำนวนมาก สามารถเข้าถึงได้ประชาชนในทุกกลุ่มชนชั้น ซึ่งทำให้การที่กลุ่มธุรกิจ ที่มีสื่อในมือ จึงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจในการกระจายเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจเหล่านี้นั่นเอง

vi-cover-02

การเข้าร่วมมือกัน ของกลุ่มสื่อทีวีดิจิตัลและกลุ่มนายทุน

การเข้าร่วมมือกัน ของกลุ่มสื่อทีวีดิจิตัลและกลุ่มนายทุน น่าจะเป็นการทำธุรกิจที่เรียกว่า win-win สำหรับทั้งสองฝ่าย แต่ในแง่ของผู้บริโภค เราคงต้องติดตามดูกันต่อไป ว่า  การเข้ามาของกลุ่มไทยเบฟฯ ในการเข้าสู่สื่อทีวีดิจิตัลอย่างเต็มตัว จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของเครือ AMARIN และผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไทยเบฟฯ ทั้งในส่วนที่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม (มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลลกอฮอล์) และสินค้าอื่นๆของตัวเองได้อย่างที่ต้องการหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป

dr kui[เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ]

ดร.กุ๋ย ผู้เขียนหนังสือขายดี “นำเข้าส่งออกออนไลน์ ไม่ยาก” และหนังสือ “อาเชียนพารวย” เป็นนักเดินทางตัวยง เก็บประสบการณ์จากการมองโลกกว้าง กลั่นกรองออกมาเป็นบทความให้เราได้อ่านกันบนเว็บ www.naiwaen.com และ www.topofliving.com ฝากติดตามกันด้วยนะครับ (นายแว่นธรรมดา)

 

หากยังไม่จุใจ สามารถหาอ่านเรื่องราวของแนวคิดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และการตกแต่งบ้าน หลากหลายสไตล์ คลิ๊กอ่านต่อได้เลยจ๊า… คลิ๊กอ่านที่นี่

สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่จะได้รับอานิสงค์ โดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าในเมือง ก็คือ “คอนโดมิเนียม” นั่นเอง

ติดตามอ่านทุกเรื่องราวของ “คอนโดมิเนียม ทำเลเด่น” คลิ๊กอ่านต่อที่นี่เลยครับ

www.topofliving.com : สนใจติดต่อให้ทีมงานไปรีวิวโครงการเด่นน่าสนใจ

และผู้ที่สนใจต้องการลงอสังหาริมทรัพย์เพื่อประชาสัมพันธ์ หรือฝากขายติดต่อที่นี่ครับ  [email protected]

mini LOGO TOP