#มุมการตลาด : การมาของ Alibaba คู่ค้าใหม่กับ Cp 7-11 จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต
การมาของ Alibaba คู่ค้าใหม่กับ Cp 7-11 จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต
ในยุคที่เทคโนโลยีทางการเงิน หรือ Fintech (Financial Technology) ต่างๆที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย ทำให้การทำธุรกรรมด้านการเงินต่างๆ มีความสะดวกและสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ ในทุกสถาบันการเงิน ธนาคาร และโบรกเกอร์ที่เป็นตัวแทนต่างๆ รวมทั้งการมีแอพลิเคชั่นต่างๆ ที่ช่วยวางแผนการลงทุน มีบริการ Mobile POS ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นเครื่องรูดบัตรเครดิต ทำให้ลูกค้ารายย่อยสามารถเข้าถึงการให้คำปรึกษาทางการเงิน ผ่านทางระบบออนไลน์ต่างๆ ลดการพึ่งพาตัวบุคลากรของสถาบันการเงิน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ซึ่งทำให้ต้นทุนทางการเงิน และการจัดการลดลงเป็นอย่างมากแล้วนั้น การเข้ามาของ Alibaba ผู้ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีนและของโลก กับคู่ค้าอย่าง 7-11 หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ในเรื่องของเทคโนโลยีทางการเงินในอนาคตของประเทศไทยของเรา
ซึ่งโดยหลักๆแล้ว การร่วมมือกัน หรือการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ระหว่างซีพีกับอาลีบา จะเป็นการร่วมกันสร้างระบบการให้บริการทางการเงินแบบใหม่ เป็นการให้บริการการเงินแบบไร้เงินสด หรือ Cashless Society ให้กับคนไทยและคนจีนนั่นเอง เพราะ Alibaba ได้ตกลงส่ง แอนท์ ไฟแนนเชียล (ANT Finacial) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ อาลีเพย์ (Alipay) ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับบริการธุรกรรมทางการเงินของอาลีบาบา (Alibaba) เอง เข้าทำงานร่วมกับ แอสเซนด์ มันนี่ (Ascend Money) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ แอสเซนด์ (Ascend) ที่ทำธุรกิจบริการการเงินในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ที่เราๆ รู้จักกันในชื่อของ True Money นั่นเอง
มองหาไอเดียการตลาด ทำธุรกิจ คลิ๊กที่นี่เลยครับ
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
การเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น ในการจับมือร่วมกัน ระหว่างสองบริษัทนี้ มองได้ทั้งในด้านบวก และด้านลบ ต่อผู้บริโภค และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริการของเทคโนโลยีทางการเงิน นั่นคือ การเข้ามาของ ANT Finacial และ อาลีเพย์ (Alipay) ซึ่งเป็นเครือข่ายออนไลน์ที่มีขนาดการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วโลก พร้อมกับจุดให้บริการการทำธุรกรรมด้านการเงินในประเทศจีนที่มากกว่า หนึ่งล้านห้าแสนจุด เมื่อรวมเข้ากับ Ascend และ True Money ที่มีเครือข่ายบนโลกออนไลน์ และมีจุดให้บริการทำธุรกรรมด้านการเงินในไทยมากกว่าสองหมื่นจุด รวมทั้งลูกค้าที่อยู่ในระบบ True Money อีก 20 ล้านราย และลูกค้าของทรูวอลเล็ตอีกมากกว่า 4 ล้านราย นั้น เมื่อสองบริษัทนี้จับมือกัน แน่นอนว่า ฐานลูกค้าและจุดการให้บริการหรือเครือข่ายการให้บริการการเงิน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จะเพิ่มขึ้นทันที เป็นการรวมเครือข่ายระบบการเงินที่ทำให้สร้างความสะดวกให้กับลูกค้าที่ใช้บริการระบบการเงินของทั้งสองกลุ่มอย่างมาก นั่นคือ คนจีน ที่ส่วนใหญ่รู้จัก และเป็นลูกค้าของ Alipay เมื่อมาเที่ยวเมืองไทย จะสามารถจ่ายค่าสินค้า รวมทั้งค่าบริการในทุกจุดที่รับชำระด้วย True Money ซึ่งรวมถึง การใช้บริการจากร้าน 7-11 ที่มีสาขามากกว่า 8,000 สาขา ได้อย่างง่ายได้
ในทางกลับกัน คนไทยเอง เมื่อไปเที่ยว หรือชำระสินค้าที่เมืองจีน ถ้าเป็นลูกค้าของ True Money แล้ว จะสามารถใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ในการใช้จ่าย เพื่อการเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ในร้านค้า และสถานบริการที่รองรับระบบของ Alipay ได้เลย เช่นเดียวกัน นอกจากระบบออฟไลน์ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทั้งสองฝั่งแล้ว การซ้อขายผ่านเครือข่ายออนไลน์ที่ผ่าน Alipay หรือ True Money จะสามารถทำได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านบัญชีธนาคาร หรือผ่านบัตรเครดิต อีกต่อไปนั่นเอง นอกจากนี้ การร่วมมือกันของธุรกิจทั้งสองฝั่ง ยังเอื้อประโยชน์ไปถึงการขอกู้ขอสินเชื่ออีกด้วย เพราะพ่อค้า แม่ค้า ที่มีประวัติการค้าดี มีเงินหมุนเวียนไม่ติดขัด และมีจำนวนลูกค้าเติบโตน่าพอใจ (ซึ่งประวัติเหล่านี้ สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย เมื่ออยู่ในระบบเดียวกัน และมีข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลชุดเดียวกัน) จะสามารถยื่นใช้บริการกู้ยืมเงินจาก Alipay หรือ True Money ได้โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่างๆมากมาย เหมือนนับการไปขอยื่นสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารต่างๆ นั่นเอง
มุมมองด้านอื่น ๆ ของการเข้ามาจับมือกันในครั้งนี้
ซึ่งมองในด้านลบ จะเห็นภาพของการผุกขาดธุรกิจ ในด้านการให้บริการการเงินออนไลน์ ทั้งจากธนาคารพาณิชย์ เครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกลุ่มธุรกิจ สตาร์ทอัพ ต่างๆ ที่ยังต้องพึ่งพาการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์หรือการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจจะทำให้การพัฒนาของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กชะงักลง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการไม่มีทางเลือกให้กับผู้บริโภคในอนาคตได้ ในแง่ผู้บริโภครายย่อยอย่างเราๆ คงต้องจับตามองกันต่อไป ว่าเราจะได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์อย่างไร ในการจับมือร่วมกันของการยักษ์ใหญ่ทั้งสองรายนี้
อย่างไรก็ตามโลกนี้มันไม่เคยหยุดนิ่ง และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเปลี่ยนผ่านบางอย่างอาจดูแล้วเกิดผลกระทบ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงที่จะอยู่ได้อย่างยั่งยืน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยให้ชีวิตของคนเราสะดวกสบายขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น และคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากขึ้นนั่นเอง
[เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ]
ดร.กุ๋ย ผู้เขียนหนังสือขายดี “นำเข้าส่งออกออนไลน์ ไม่ยาก” และหนังสือ “อาเชียนพารวย” เป็นนักเดินทางตัวยง เก็บประสบการณ์จากการมองโลกกว้าง กลั่นกรองออกมาเป็นบทความให้เราได้อ่านกันบนเว็บ www.naiwaen.com และ www.topofliving.com ฝากติดตามกันด้วยนะครับ (นายแว่นธรรมดา)
หากยังไม่จุใจ สามารถหาอ่านเรื่องราวของแนวคิดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และการตกแต่งบ้าน หลากหลายสไตล์ คลิ๊กอ่านต่อได้เลยจ๊า… คลิ๊กอ่านที่นี่
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่จะได้รับอานิสงค์ โดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าในเมือง ก็คือ “คอนโดมิเนียม” นั่นเอง
ติดตามอ่านทุกเรื่องราวของ “คอนโดมิเนียม ทำเลเด่น” คลิ๊กอ่านต่อที่นี่เลยครับ
www.topofliving.com : สนใจติดต่อให้ทีมงานไปรีวิวโครงการเด่นน่าสนใจ
และผู้ที่สนใจต้องการลงอสังหาริมทรัพย์เพื่อประชาสัมพันธ์ หรือฝากขายติดต่อที่นี่ครับ [email protected]
