“Cpall + Makro ผนึกกำลังโต”

เรื่องราวเริ่มต้นจากข่าว “7-11เขย่าตลาด ซุ่ม”อาหารตามสั่ง” ควงตะหลิวจัดครบ”ก๋วยเตี๋ยว-ข้าวผัด”รับคนเมือง” เพื่อนๆ นักลงทุนคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้างครับ? อย่างไรก็ตามพักหลังๆ ราคาหุ้น Cpall และ Makro หลังจบดิว “ควบรวมกิจการ” ด้วยการที่ Cpall ไปซื้อ Makro เกือบทั้งหมดนั้นจบลง (เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา) ราคาหุ้นก็ไม่ค่อยไปไหน สาเหตุที่ “ฉุดราคาหุ้น” ของทั้ง Cpall และ Makro คืออะไร? และจะวางแผนการลงทุนกับหุ้นสองตัวนี้อย่างไร? ติดตามได้จากบทความนี้นะครับ

7-11

 

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

ตรวจสุขภาพทางการเงินของ Cpall และ Projection ในอนาคต

Cpall rojection

ก่อนที่เราจะเดินหน้าทำประมาณการของหุ้น Cpall ในอนาคต เราควรตรวจสุขภาพทางการเงินของ Cpall ณ.ปัจจุบันเสียก่อน จากตารางที่ทำเป็น Model ข้างต้น (Model ดังกล่าวอยู่บนสมมติฐานของผู้เขียน โปรดใช้วิจารณญานในการรับข้อมูลนะครับ) เราจะพบว่า กำไรที่แท้จริงของ Cpall ควรจะทำได้ราว 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่มีปัจจัยที่มาก “กดดัน” ราคาหุ้นคือ “ภาระดอกเบี้ยจ่าย” ที่ต้องจ่ายให้กับการกู้เงินมาซื้อ Makro ราวๆ 5 พันล้านบาท ทำให้กำไรหดเหลือเพียง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี (ประมาณการ) จึงไปกดดันราคาหุ้น Cpall ทำให้ราคาไม่ไปไหนในห้วงเวลานี้ครับ

cpall makro

อย่างไรก็ตามหากปล่อยไว้แบบนี้จากภาระเงินกู้ที่สูงกว่า 2 แสนล้านบาท ถ้าให้ Makro ช่วยผ่อนชำระ 5 พันล้าน ให้ Cpall ช่วยผ่อนชำระอีก 5 พันล้าน ต้องใช้เวลาประมาณ 20 ปีบวก-ลบ จึงจะสามารถใช้หนี้หมด และยังส่งผลให้กำไรสะสมที่ Cpall เคยมีหลายหมื่นล้านในอดีต ลดเหลือเพียง 1.6 หมื่นล้านในปัจจุบัน แถมยังทำให้สภาพคล่องทางการเงินลดเหลือเพียง 0.4-0.6 เท่าบ่งบอกว่า Cpall เริ่ม “ตึงตัว” และเปลี่ยนจากหุ้นเงินสด หรือ Cash Cow ในอดีตกลับกลายเป็นหุ้นที่มีหนี้สินมาก ยิ่งกดดันราคาหุ้นไม่ให้ไปไหนไกล ถ้าเราเป็นเจ้าของ Cpall เราจะชอบสถานการณ์แบบนี้หรือไม่?

ปัจจัย “ปลดล็อก” Cpall คืออะไร?

หากเราเป็นเจ้าของ Cpall เราย่อมไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ราคาหุ้นไม่ไปไหน โดยเบื้องต้นผู้บริหาร Cpall ลดภาระหนี้สินด้วยการออกหุ้นกู้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงจาก 5.3% เป็น 4.9% โดยผลบวกจากการลดดอกเบี้ยจะถูกสะท้อนออกมาประมาณต้นปี 2558 อย่างไรก็ดีอีกทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือ ผู้บริหารอาจเลือกที่จะขาย Makro ออกไปบางส่วนเพื่อปลดล็อกภาระหนี้สินของ Cpall เหตุผลก็น่าสนใจตรงที่ในอดีต Cpall ซื้อ Makro มาในราคา 1.8 แสนล้านบาท แต่ทว่า Maket Capขอ Makro เคยขึ้นไปกว่า 2 แสนล้านบาท หาก Cpall เลือกที่จะขาย Makro ออกไปบางส่วนเพื่อลดภาระหนี้ก็ได้กำไรทั้งจากการขาย Makro ในราคาสูงกว่าที่ซื้อมา และสามารถลดภาระดอกเบี้ยจ่ายไปในตัวครับ โดยสมมติฐานที่คาดว่าจะเป็นก็คือ Cpall จะขายหุ้น Makro ด้วยราคาที่สามารถครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดในการถือครองหุ้น (ประมาณ 2-2.5 แสนล้านบาท) และจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้น Makro ลดลงเป็น 73% ทำให้ Cpall อาจทำกำไรได้ราว 3-5 พันล้านบาท และได้ลดภาระหนี้สินไปในตัวอีกด้วยครับ

อนาคต Cpall ต่อจากนี้

  1. อนาคตต่อจากนี้ถ้าตามที่ทีมงานนายแว่นธรรมดาได้ Projection เอาไว้ และเป็นไปแบบปกติ ไม่มีรายการพิเศษ (ขาย Makro) ออกไป เราจะเห็น Cpall มี Market Cap เกิน 5 แสนล้านบาทภายใน 5 ปีครับ แต่หากเกิด “ดิวพิเศษ” คือมีการขาย Makro ออกไปบางส่วนเพื่อลดภาระหนี้ คาดว่า Cpall จะกลับมาสดใสอีกครั้งในเวลาอันใกล้นี้ครับ
  2. อนาคตต่อจากกรณีที่เกิด “รายการพิเศษ” ก็คือ ทีมงานพิจารณากันว่ามีความเป็นไปได้ที่ Cpall อาจคิดจะออกไปขยายกิจการในกลุ่ม CLMV ซึ่งตรงนี้จะติดสิทธิบัตรของโลโก้ร้านค้า “7-11” อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผู้บริหารคงกำลังเจรจาอยู่ ซึ่งหากกลุ่ม CP ต้องการจะขยายร้านค้าปลีกของตนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คงต้องเลือกบริษัท Cpall เนื่องด้วยความเป็นมืออาชีพของระบบการจัดการด้านค้าปลีก หากเกิดขึ้นจริงปัจจัยนี้จะทำให้หุ้น Cpall สดใสอย่างแน่นอนครับ แต่ถ้าไม่เกิดขึ้น Cpall คงไม่ตกลงไปมากกว่านี้
  3. อนาคตที่จะปลดล็อกเด้งที่สามก็คือ ภายใน 5 ปี Cpall อาจทำกำไรได้สูงกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี ถ้าพิจารณาจากกำไร ณ.ปัจจุบันราวๆ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี หมายความว่า Cpall ยังมี Gap ให้เติบโตอีก และสามารถ “ไปต่อ” ได้ไม่ยาก เนื่องจากทีมงานของเราประมาณการขนาดตลาดร้านค้าปลีก (โชห่วย + 7-11) นั้นน่าจะมีขนาดตลาดมากถึง 1.5 ล้านๆ บาทต่อปี การที่ Cpall มียอดขาย ณ.ปัจจุบันราวๆ 3 แสนล้านบาทต่อปี หมายความว่ายังมีช่องให้เติบโตอีกมากครับ

ข้อสรุปของการลงทุนหุ้น Cpall

ข้อสรุปของ “ทีมงาน” ในแว่นธรรมดาก็คือ หุ้น Cpall ยังคงมีอนาคตสดใสจากปัจจัยที่จะ “ปลดล็อก” ดังที่กล่าวไปข้างต้น สิ่งที่น่ากังวลของทีมงานก็คือ การที่ Cpall เริ่มรุกกิจการ “ร้านอาหารตามสั่ง” เนื่องจากเราเชื่อว่าเป็นกิจการที่ไม่ถนัด และอาจเกิดภาพ “ธุรกิจผูกขาด” ทำให้เกิดกระแส “ตีกลับ” เหมือนหุ้น PTT ที่เกิดขึ้นมาแล้วก็เป็นไปได้ครับ (ต้องเฝ้าจับตาดูให้ดี) แต่อย่างไรก็ดีหุ้น Cpall ยังถือว่า “น่าลงทุน” ด้วยนโยบายของผู้บริหารที่ขยาย Makro เป็นคลังสินค้า และให้ 7-11 เป็นร้านค้าปลีก จะทำให้เกิดการผนึกกำลังระหว่าง Cpall-Makro และเติบโตได้อีกมากในอนาคตครับ

(ทีมงานนายแว่นธรรมดา)

 

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดา “พวงกุญแจ นกฮูกนำโชค” สัญญาลักษณ์แห่งภูมิปัญญา และความโชคดีร่ำรวย สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

owl with wing 588 size