เปรียบเทียบหุ้นรถไฟฟ้า BTS vs BMCL

หุ้นรถไฟฟ้าสำหรับผมแล้วมันคือ “หุ้นแห่งอนาคต” ด้วยภาพที่เริ่มจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กับโครงข่ายรถไฟฟ้าที่จะประมูลอีกกว่า 10 สาย ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้เริ่มจะน่าสนใจ และมีแววว่าจะเป็น “หุ้นมหาชน” ได้เหมือนหุ้นค้าปลีกในปัจจุบัน บทความนี้เราจะมา Update ความคืบหน้า และมาเจาะลึกอีกครั้งเพื่อดูว่าควรลงทุนในหุ้น 2 ตัวนี้อย่างไรครับ…

BTS

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

Update BTS

สำหรับภาพของ BTS ในอนาคตนอกจากจะเป็นหุ้นที่ทำกิจการรถไฟฟ้าแล้ว ยังมีภาพของหุ้นที่เกี่ยวกับการโฆษณาอย่าง VGI และเมื่อเร็วๆ นี้มีการเข้าไปถือหุ้นของ NPARK ในสัดส่วน 30% ทำให้ภาพของหุ้น BTS มีลักษณะคล้ายกับ Holding Company ที่ถือหุ้นอยู่ 3 ตัว (BTSGIF, VGI และ NPARK) ที่สำคัญมีเหตุการณ์ที่ส่งผลดีต่อ BTS อีกเหตุการณ์ก็คือ การได้เซ็นสัญญาในการจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางระบบตั๋วร่วม และบริหารเชิงพาณิชย์ 7 สถานีส่วนต่อขยาย โดยล่าสุด BTS ได้เข้าเจรจาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเพื่อเดินรถส่วนต่อขยายอีกหลายสถานี ถือว่ามีอนาคตมากครับสำหรับหุ้น BTS

Update BMCL

หุ้น BMCL มีข่าวดีในเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสาร 1-2 บาทต่อสถานี โดยจะเริ่มในเดือนมกราคม 2558 ปรับวิธีการประมูลการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มาเป็นการเจรจา- รายได้ปี 2557 มีโอกาสจะโต 10-12% ครับ โดยคาดว่าปริมาณผู้โดยสารปี 2557 จะแตะระดับ 2.7 แสนเที่ยวต่อวัน ส่วนการประมูลงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะรู้ผลช่วงกลางปี 2558 โดย รฟม.จ่อประมูล-เจรจาพิจารณางานเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีนำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค โดยล่าสุดขาดทุนสุทธิ 159 ล้านบาท สาเหตุคือ ตัดสินใจบันทึกค่าตอบแทนสัมปทานให้แก่ รฟม. แบ่งเป็น 2 ก้อน โดยก้อนแรกบันทึกในงบกำไรขาดทุน 90 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกราว 155 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปบันทึกแยกไว้เป็นสินทรัพย์ในงบดุล -ต้นทุนเดินรถจะลดลง 8% เมื่อเทียบแบบปีนี้กับปีที่แล้ว จากการบริหารเดินรถที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นครับ

“หุ้น BMCL เป็นหุ้นโตเร็วในอนาคตหรือไม่?

ช่วงนี้ผมกำลัง “อิน” กับการลงทุนในหุ้นโตเร็ว หรือ Growth Stock (อ่านหุ้นโตเร็วที่นี่) ทำให้ผมมานั่งพิจารณาดูว่าอนาคตหุ้นรถไฟฟ้าจะเป็นหุ้นโตเร็ว และเติบโตอย่างยั่งยืนได้หรือไม่? คำตอบก็คือมีความเป็นไปได้ เนื่องจากในอนาคตรถไฟฟ้าจะเป็นโครงข่ายการคมนาคมที่ทันสมัย และสะดวกสบายที่สุด ทำให้ผมลองเลือกหุ้น BMCL มาพิจารณาการเติบโตในอนาคตอีกครั้ง

หุ้น BMCL ปัจจุบันเดินรถไฟฟ้า 1 สายคือสายสีน้ำเงินโดยมีผู้โดยสารที่มีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรากะอัตราการเติบโตของ BMCL ที่ราว 3 แสนคนต่อวัน ค่าเดินทางต่อคนตกเฉลี่ย 25-30 บาทต่อเที่ยวต่อคน ดังนั้นจำนวนคนสามแสนคนตกราว 9 ล้านบาทต่อวัน = 270 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 3,240 ล้านบาทต่อปี บวกกับรายได้จากการเก็บค่าโฆษณา และพื้นที่ให้เช่าในโครงข่ายรถไฟฟ้า BMCL หากธุรกิจอยู่ตัวแล้ว BMCL ควรมีรายได้ราว 4000-4500 ล้านบาทต่อปี (ในอนาคต)

Story ของ BMCL ภายในปี 2560 จะมีการเดินรถไฟฟ้าอีกสายคือ “รถไฟฟ้าสายสีม่วง” จะเพิ่มยอดผู้โดยสารได้อีกเท่าตัวเป็น 6 แสนคนต่อวัน คิดเป็นค่าโดยสาร 18 ล้านบาทต่อวัน = 540 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 6,480 ล้านบาทต่อปี บวกกับรายได้จากการเก็บค่าโฆษณา และเช่าพื้นที่เช่าในโครางข่าย เราสามารถปรับรายรับของ BMCL ใหม่เป็น 7000-7500 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม BMCL ยังมีรถไฟฟ้าสมทบอีกคือ “รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย” ทำให้เราอาจปรับประมาณการรายได้ของ BMCL ราว 12,000 ล้านบาทต่อปี (ในอนาคต) ด้วยฐานของผู้โดยสารที่อาจหมุนเวียนอยู่ในระบบราว 1 ล้านคนต่อวัน! จะเห็นได้ชัดว่ายอดรายรับในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามฐานของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ในขณะที่ Net Profit Margin (NPM) ของ BMCL ยังคงต่ำกว่า BTS ที่มี NPM สูงกว่า 27% (ตัวเลขในไตรมาสล่าสุดปี 2557) หากเราใช้สมมติฐานเดียวกับการเพิ่มขึ้นของ NPM เมื่อรถไฟฟ้า BMCL ทำธุรกิจจนอยู่ตัวแล้ว เราสามารถแปลงยอดขาย และ NPM กลับไปเป็น Market Cap ที่ควรจะเป็นได้ดังต่อไปนี้

Case 1 คิดบนฐาน PE 10 เท่า (หุ้นที่เติบโตปกติ)

NPM = 27%

Prize/Sale = 3 เท่า

Market Cap ที่ควรจะเป็น = (10 x NPM) x 12000 = 32,400 ล้านบาท

Case 2 คิดบนฐาน PE 20 เท่า (มีการเติบโตอย่างเร็ว)

NPM = 27%

Prize/Sale = 3 เท่า

Market Cap ที่ควรจะเป็น = (20 x NPM) x 12000 = 64,800 ล้านบาท

นั่นหมายความว่าหากเราพิจารณาใน Case แรกเราจะพบว่า BMCL นั้นเต็มมูลค่าไปแล้ว แต่หากเราพิจารณาในกรณีที่สองที่คำนึงถึงการ “เติบโต” ของ BMCL เรายังพอมี upsize เหลืออยู่บ้าง (ภายใน 3-5 ปีต่อจากนี้) แต่ผมเข้าใจว่าราคา ณ.ปัจจุบันค่อนข้างรับข่าวไปพอสมควรแล้ว ควรลงทุนอย่างระมัดระวังนะครับ

อย่างไรก็ตามในอนาคตหาก BMCL รวมทั้ง BTS มีเส้นการเดินรถไฟฟ้าที่มากขึ้นชุดของตัวเลขก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีก เราพอจะคาดเดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ สำหรับการลงทุนระยะสั้นเราจะพบกับความ “ผันผวน” ของราคาหุ้น แต่ในระยะยาวแล้วราคาจะวิ่งเข้าหามูลค่าที่ควรจะเป็นเสมอครับ

(นายแว่นธรรมดา)

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดา “พวงกุญแจ นกฮูกนำโชค” สัญญาลักษณ์แห่งภูมิปัญญา และความโชคดีร่ำรวย สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา”

มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ…

เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ
http://naiwaenstore.com/store/how-to-order/

E Book Shop