เจาะหุ้นวีไอไม่เสี่ยง : หุ้นใหม่ BEM อนาคตสดใส จริงหรือไม่?

หุ้นใหม่ BEM อนาคตสดใส จริงหรือไม่?

บทนำ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นน้องใหม่ BEM เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นการรวมกันระหว่าง BMCL และ BECL กลายเป็นหุ้นใหม่ ชื่อว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยรายละเอียดจากข่าวดังต่อไปนี้

[Cr. efinanceThai] อีก 1 บิ๊กดีลที่เกิดขึ้นในปี 2558 คือการควบรวมระบบขนส่งมวลชนยักษ์ใหญ่คือ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) กับ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) เป็นหุ้นใหม่คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่จะเข้าเทรดอีกครั้งในวันที่ 5 ม.ค. 59 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่าการควบรวมครั้งนี้เป็นการนำจุดเด่นของทั้งสองบริษัทมารวมกันให้เกิดประสิทธิภาพในการแข่งขันที่สูงสุด

โดย BECL เป็นบริษัทที่มีลักษณะ cash cow คือมีกระแสเงินสดมากแต่การเติบโตไม่สูงมากนัก แต่ BMCL เป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูงแต่ขาดแคลนกระแสเงินสดที่มากพอ ซึ่งการรวมกันในครั้งนี้จะทำให้เกิดบริษัทที่เติบโตและมีเงินรองรับ ขณะที่ปี 59 จะเป็นปีทองของการลงทุนโครงสร้างสร้างพื้นฐาน ซึ่ง BEM เป็นหุ้นที่มีความพร้อมทั้งในแง่ของเงินทุน และศักยภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งตอบโจทย์โครงการประเภท PPP ที่คาดว่าจะเข้ามาเป็นรูปแบบการประมูลหลักในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ

“หากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเข้ามาในระบบจนสามารถเดินรถได้เป็น Loop จะช่วยเพิ่ม traffic จากเดิมอยู่ราวๆ 3 แสนเที่ยวต่อวัน ไปทะลุ 1 ล้านเที่ยวต่อวันก็เป็นไปได้”

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

โครงการในปี 2559 ของ BEM มีอะไรบ้าง

โครงการในปี 2559 ของ BEM จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะเปิดให้บริการภายในปลายปี 2559 นี้แล้ว และโครงการทางด่วนสายใหม่ (SOE) บวกกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายก็จะเข้ามาในพอร์ตอีก โดยอนาคตอันใกล้ รถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และทางด่วน SOE จะเปิดให้บริการ ทำให้มี traffic เข้ามาในระบบอีกพอสมควรทีเดียวครับ

ส่วนตัวประเมินเอาไว้ว่าหากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเข้ามาในระบบจนสามารถเดินรถได้เป็น Loop จะช่วยเพิ่ม traffic จากเดิมอยู่ราวๆ 3 แสนเที่ยวต่อวัน ไปทะลุ 1 ล้านเที่ยวต่อวันก็เป็นไปได้ ด้วยอัตราค่าตั๋วโดยสารก็จะเพิ่มขึ้นจาก 25 บาทต่อเทียว ไปเป็น 30 กว่าบาทต่อเที่ยวเนื่องจากสายการเดินรถที่ยาวขึ้น คิดคร่าวๆ จะมีรายรับจากการเดินรถไฟฟ้าเฉียดหลักหมื่นล้าน! เป็นไปได้หรือไม่ลุ้นกันต่อไปครับ

อัตราการทำกำไรสุทธิ และการบริหารจัดการหนี้สิน

สำหรับสมาชิกเว็บอ่านบทความเพิ่มเติมแบบ Exclusive กรุณา Login หรือสมัครสมาชิกที่นี่ “คลิ๊กเพื่อสมัครสมาชิก” [hide for=”!logged”] 

BEM เป็นหุ้นที่มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นสูง เฉลี่ย 40-50% ต่อปีครับ ส่วนอัตราการทำกำไรสุทธิหรือ NPM ก็สูงกว่า 15% ตามที่ขีดเส้นไต้เอาไว้ ส่วนการชำระเงินกู้นั้น ปีหนึ่งๆ จะชำระหลักพันล้านบาทต่อปี แต่การกู้เพิ่มเยอะกว่า ทำให้หนี้สินของ BEM สะสมจาก 4 หมื่นล้าน ไปเป็น 4.7 หมื่นล้านในปีล่าสุดครับ

ในส่วนของการจัดการหนี้สิน ในปัจจุบัน DE Ratio อยู่ราวๆ 1.6 เท่า ถือว่ายังพอบริหารจัดการได้ ในอนาคตหากทำหุ้นกู้ก็ยังมี room อีกพอสมควร ด้วยอันดับ Rating ที่ดีขึ้นสามารถออกหุ้นกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ดีกว่าตอนที่เป็น bmcl อัตราดอกเบี้ยจากการกู้แบ็งค์ค่อนข้างจะสูงมากทีเดียว

สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2558 บริษัทมีค่าใช้จ่ายทางการเงิน จำนวน 1,059 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 37 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 โดยมีสาระสำคัญมาจากการที่บริษัทมีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 1,500 ล้านบาทในช่วงปลายไตรมาสที 2 2 ปี 2557 (เครดิต 56-1)

BEM มีการชำระเงินกู้ตลอดครับ เพียงแต่ชำระไม่เยอะ ต้องเก็บเงินไว้ลงทุน หนี้สินส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ แถมปีๆ นึง ยังได้ส่วนแบ่งกำไรจาก TTW อีก 300 ล้านบาท และ CKP อีก 50 ล้านบาท

ข้อสรุปเบื้องต้น มุมมองการลงทุนในหุ้น BEM

หันมาดูชื่อผู้ถือหุ้น BTS แล้วมีต่างชาติค่อนข้างเยอะ แต่ Bem ยังมีไม่มากเลย … อนาคตถ้า bts หมดปันผลพิเศษ ต่างชาติอาจหันมาถือ bem แทนก็เป็นไปได้ครับ … สำหรับแนวทางการลงทุนใครที่ไม่ได้ซื้อหุ้นมาก่อนหน้านี้คงต้องใจเย็นๆ ทยอยสะสมไปเรื่อยๆ เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้น ณ.ตอนนี้ จะลงเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องรีบร้อนอะไร … เกมนี้ยังอีกยาวพอควร เตรียมเสบียง สะสมกระสุน วางแผนกลยุทธ์รับมือความผันผวนกันต่อไปครับ

NAIWAENTAMMADA

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

[/hide]

อ่านหุ้นรถไฟฟ้าเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่เพื่ออ่านต่อเลยครับ 

และอ่านทุกเรื่องราวของหุ้นอสังหา หุ้นที่จะได้รับอนิงสงค์จากการที่มีรถไฟฟ้าหลากหลายสายเกิดขึ้น! คลิ๊กอ่านต่อที่นี่เลยครับ

[เกี่ยวกับผู้เขียน]

นายแว่นธรรมดา ผู้แต่งหนังสือขายดี  “รวยหุ้นวีไอไม่เสี่ยง” และหนังสือ “ลงทุนคอนโดไม่ยาก” และผู้ก่อตั้งเว็บ www.naiwaen.com และ www.topofliving.com ผมขออาสาถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ให้เพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่านได้อ่านแบบเข้าใจง่าย ติดตามกันให้ได้นะครับ

#ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว : ปัญหาของนักลงทุนหุ้นโตเร็วก็คือ มองหุ้นโตเร็วไม่ออก มองภาพใหญ่ไม่ชัดเจน และจัดพอร์ตไม่เป็น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ “ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว” ติดตามได้ที่นี่เลยครับ

‪#‎ช่องทางการติดตามข้อมูล‬ ‪#‎นายแว่นธรรมดา‬

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการติดตามข้อมูล โดยเฉพาะสมาชิกเว็บ www.naiwaen.com ท่านสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ [email protected]

หรือเข้าไปติดตามบทความในรูปแบบคลิ๊ปเสียงที่ https://www.youtube.com/channel/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw

เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดที่บล็อกพันทิป http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=naiwaentammada(ปัจจุบันมียอดเพจวิวกว่า 3.1 ล้านวิว)

หรือยังไม่จุใจท่านยังสามารถเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่นี่ครับ https://plus.google.com/u/0/118319315169248364407

สำหรับเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์… เพื่อนๆ สามารถเข้าไปหาข้อมูลที่ต้องการได้ที่นี่ www.topofliving.com

และเตรียมพบกับเว็บบอร์ดคุยเรื่องหุ้นเร็วๆ นี้นะครับ

ยินดีต้อนรับทุกท่าน อีโมติคอน grin
สำหรับ “นายแว่นธรรมดา” แล้วเราจะทำให้เพื่อนๆ ทุกท่าน

“มีชีวิตที่ง่าย และดี”