บันทึกนายแว่นธรรมดา "เงิน 4 ก้อน เพื่อการลงทุนในภาวะวิกฤต"

ยินดีต้อนรับสู่ “บันทึกนายแว่นธรรมดา” วันนี้เป็นวันที่สดใสสำหรับผมเช่นเคย ควันหลงจาก “หุ้นตก” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ผมต้องทำการบ้านหนักขึ้น และรอบคอบมากขึ้น แม้ผมจะเคยผ่านช่วงวิกฤติหุ้นตกมาแล้วในอดีต แต่ผมก็พยายามจะ “ไม่ประมาท” เพราะผมเองก็ไม่อยากจะจ่ายแพงเช่นเดียวกับนักลงทุนมือใหม่ทุกท่านครับ ผมจึงขอนำสิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้กับการจัดสรรเงิน 4 ก้อนเพื่อการลงทุนดังต่อไปนี้ครับ

ก้อนแรก 

เป็นเงินที่ผมใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เงินก้อนนี้จะเป็นกระแสเงินสดที่เข้ามาจากธุรกิจส่วนตัวของผม เงินปันผล และงานเขียนโดยเมื่อผมได้รับเงินก้อนมาในแต่ละเดือนแล้วผมจะนำมาจัดสรรเพื่อใช้จ่ายโดยเงินก้อนนี้ผมควบคุมไว้ไม่เกิน 20% ของเงินทั้งหมดครับ

ก้อนที่สอง

ก้อนนี้ผมแบ่งออกมาอีก 20% เพื่อเก็บไว้ให้มันเย็นเจี๊ยบ เอาไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น หรือยามฉุกเฉิน โดยปกติแล้วผมจะเก็บเงินก้อนนี้ไว้กับธนาคารที่ไม่มีบัตรเอทีเอ็มเพื่อความยากลำบากในการถอนเงินออกมา หรืออาจจะเก็บในรูปของประกันชีวิต (ประกันเงินออม) ก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใดครับ

ก้อนที่สาม

ก้อนนี้ผมจะแบ่งออกมา 10% เก็บไว้เป็น “กระสุนสำรอง” ยามที่เกิดวิกฤติหุ้นตกมากๆ ผมจะได้มีเงินก้อนเพื่อเก็บหุ้นดีราคาถูก ถ้าผมไม่กันเงินก้อนนี้เอาไว้ผมก็จะช็อปฯ หุ้นจนหมด เวลาเกิดเหตุการณ์ “หุ้นตก” ผมก็จะไร้กระสุนที่จะเก็บของลดราคา โดยผมจะคอยอาศัยจังหวะดีๆ ในการเก็บของ ไม่รีบร้อนจนเกินไป เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมนั้น เวลาเกิดวิกฤตมันจะดิ่งลงอย่างที่เราคิดไม่ถึงก็เป็นไปได้ครับ

ก้อนสุดท้าย

ก้อนนี้ลงทุนในหุ้น จะเห็นว่าผมลงทุน 50% ของกระแสเงินสดที่ผมได้รับเข้ามาครับ เพราะส่วนตัวแล้วผมคิดว่าผมยอมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง อันที่จริงเงินก้อนสุดท้ายกับ ก้อนที่สามก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือใช้ “ลงทุนในหุ้น” นั่นเองครับ

ใครที่ยังไม่หายตกใจกับการร่วงลงของตลาดหุ้นผมขออนุญาติให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ดังต่อไปนี้ครับ

… ถ้าเราคิดจะลงทุนทำธุรกิจ คงไม่มีใครคิดว่าลงทุนตอนนี้จะไปขายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หากเราลงทุนในหุ้นให้เหมือนการลงทุนทำธุรกิจ เป็นนักลงทุนระยะยาว ใจเราจะนิ่ง และไม่หวั่นไหวง่ายๆ ตราบใดที่กิจการที่เราถืออยู่ยังมั่นคง และเติบโตขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอครับ …

… การลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกับการล่องเรือเพื่อค้นหาเป้าหมายในใจของแต่ละคน ในวันที่ฟ้าสดใสเราอาจจะคิดว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป แต่ความจริงแล้วเราไม่รู้ว่า “พายุ” จะก่อตัวขึ้นเมื่อไร ดังนั้นเราจึงไม่ควร “ประมาท” และยังคงต้องสะสมเสบียงเอาไว้ใช้ในยามคลื่นลมแรง หรือยามที่เราอาจต้องติดอยู่กลางทะเลเป็นเวลานาน …

หากตัดสินใจลงไปแล้วควรเคารพการตัดสินใจของตนเองนะครับ อุปสรรคในวันนี้จะเปลี่ยนรูปใหม่เป็น “ประสบการณ์” เมื่อเราผ่านพ้นมันไปแล้วเสมอครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ 😀

(นายแว่นธรรมดา)

VI New