ปลูกหุ้นให้รวย “เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกหุ้นสายพันธุ์ดี กับ หุ้น 5 ประเภท”

หุ้น 5 พารวย smallหากนักลงทุนคิดจะจัดพอร์ตแบบ “สวนผสม” ควรจะต้องรู้จักการคัดเลือกหุ้นสายพันธุ์ดีเสียก่อน จากหนังสือที่ผมเคยเขียนเกี่ยวกับหุ้น 5 ประเภท ได้แก่ หุ้นโตไว หุ้นปันผล หุ้นวัฏจักร หุ้นกลับตัว และหุ้นที่มีทรัพย์สินแฝง นั้นเปรียบเทียบกับการปลูกต้นไม้ในสวนผสมก็เปรียบได้เป็น หุ้นไม้ยืนต้น หุ้นไม้ผล หุ้นพืชหมุนเวียน หุ้นไม้ล้มลุก และหุ้นไม้สงวน นั่นเองครับ

อย่างไรก็ตามการที่เราจะคัดเลือกหุ้นสายพันธุ์ที่ดีได้เราก็ควรจะรู้จักประเภทของหุ้นอย่าง “ถ่องแท้” เสียก่อนจึงจะสามารถคัดเลือกหุ้นได้ตรงตาม “ความตั้งใจ” ตรงตามวัตถุประสงค์ในการลงทุนของเราครับ… ลองมาดูกันว่าหุ้นแต่ละประเภทมีอะไรกันบ้างดีกว่า…

Garden Naiwaen

[premium level=”1″ teaser=”no” message=”หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม กรุณา”]

หุ้นในพอร์ตแบบผสมผสานนั้นสำหรับผมแล้วขอแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังต่อไปนี้

 1.       หุ้นที่มีเมล็ดพันธุ์แบบไม้ยืนต้น หรือหุ้นเติบโต

คือ หุ้นที่เน้นการเติบโตในระยะยาว กำลังอยู่ในกระแสแห่งความนิยมยาวนาน และสามารถมองเห็นการเติบโตได้ชัดเจน หุ้นประเภทนี้หากซื้อแล้วถือทิ้งไว้ยิ่งนานยิ่งให้ผลผลิตดี ออกดอก ออกผล คุ้มค่า การลงทุนกับหุ้นไม้ยืนต้นเราไม่ควรรีบเด็ดกำไรมากิน หรือตัดต้นไม้ทิ้งก่อนเวลาอันควร แต่ควรลงทุน และถือยาวๆ ถือให้ยาวที่สุด ระยะเวลาในการลงทุนหุ้นไม้ยืนต้นควรถือไว้ 5-10 ปี

2. หุ้นไม้ผล หรือหุ้นปันผล

คือ หุ้นที่เราสามารถเก็บกินดอกผลได้แทบจะทันทีที่เราปลูกมันลงในพอร์ตสวนผสมของเรา โดยหุ้นประเภทนี้อาจเป็นหุ้นที่ “แข็งแกร่ง” อาจมีการเติบโตอย่างช้าๆ หรือไม่เติบโตแล้ว แต่มีการปันผลสม่ำเสมอ หรืออาจเป็นประเภท “ไม้ผล” ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่อิ่มตัว แต่ยังคงความสามารถในการผลิตกระแสเงินสด และปันผลได้ทุกปีครับ แนวทางการลงทุนในหุ้นไม้ผล ควรลงทุนแบบระยะยาว แต่ไม่ควรมีในสัดส่วนที่มากจนเกินไป เปรียบเสมือนแหล่งเสบียง หรือกองหลัง ที่มีเงินปันผลมากๆ เข้ามาเติมพอร์ตการลงทุนของเราครับ ข้อควรระวังก็คือ หากหุ้นประเภทนี้เริ่ม “ถดถอย” ควรตัดขายทันทีครับ และมองหาหุ้นไม้ผลตัวใหม่ที่มีเงินปันผลสม่ำเสมอทดแทน ระยะเวลาการลงทุนเราจะลงทุนจนกว่าจะเริ่มเห็นความถดถอยของกิจการครับ

3. หุ้นแบบพืชหมุนเวียน หรือ หุ้นวัฏจักร

คือ หุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ ตามฤดูกาล ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ หรือรอบของอุตสาหกรรมนั้นๆ หากจะเปรียบกับต้นไม้ก็อาจเป็นต้นไม้ที่เราต้องตัดทำกำไรบ้าง เป็นพืชที่ปลูกเอาไว้สำหรับ “หมุนเวียน” ในพอร์ตสวนผสมของเราครับ แนวทางการลงทุนในหุ้นประเภทนี้ คือ พยายามมองหา “โอกาส” จากการวัฏจักร “ขาลง” ของบริษัท พยายามประเมิน “แนวรับ” ของราคาหุ้น หากเราซื้อในราคาที่เราคิดว่าไม่ต่ำไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ถ้าเราคิดถูกก็จะได้กำไรมหาศาล แบบนี้ควรลงทุนทันทีครับ และเมื่อเราได้กำไรตามเป้าหมายแล้วก็ต้อง “ตัดขาย” เพื่อนำเงินส่วนต่างมาขยับขยายพอร์ตสวนผสมของเราครับ

4. หุ้นไม้ล้มลุก หรือ หุ้นกลับตัว

คือ หุ้นที่มีโอกาสในการ “พลิกพื้น” จากขาดทุน กลับมาเป็นกำไร หุ้นประเภทนี้เราอาจต้องขุดหาจากแหล่งที่หลายคนมองข้าม นำมากลับมาเพาะเลี้ยง หากมันรอดตายมันก็จะเติบใหญ่ให้เราตัดไปขาย หรือเก็บกินได้อย่างคุ้มค่าครับ อย่างไรก็ตามด้วยสายพันธุ์ของ “ไม้ล้มลุก” เมื่อหุ้นพลิกฟื้นกลับมากำไรก็อาจจะกลับไปขาดทุนได้อีกครับ เราจึงควรพิจารณาให้ดีก่อนลงทุน เพราะหุ้นกลับตัวส่วนใหญ่มักจะไม่กลับตัวนะครับ แต่หากหุ้นกลับตัวแล้ว อยู่ในธุรกิจที่เป็นเทรนด์ ก็อาจกลายเป็นหุ้นเติบโต หรือหุ้นประเภทแรกก็ได้ครับ

5. หุ้นไม้สงวน หรือหุ้นประเภททรัพย์สินแฝง

คือ หุ้นที่ยังไม่แสดงมูลค่าที่แท้จริงออกมา โดยมูลค่านั้นอยู่ในรูปทรัพย์สินที่ตลาดยังไม่ได้ให้ค่า ทรัพย์สินดังกล่าวอาจเป็น เงินสด ที่ดิน หรือลิขสิทธิ์บางอย่างที่แฝงอยู่ในบริษัทครับ เปรียบเสมือนกับไม้สงวน ที่เราไม่สามารถตัดมาขายได้ ถ้าไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนในหุ้นประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับเจ้าของกิจการว่าจะตัดต้นไม้มาขาย แล้วแบ่งกำไรให้ผู้ถือหุ้นหรือไม่ หากผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการไม่คิดจะตัดขาย นักลงทุนก็ต้องรอต่อไปเรื่อยๆ บางทีอาจต้องรอนานมาก แนวทางการลงทุนในหุ้นแบบนี้ไม่ควรมีสัดส่วนในพอร์ตสวนผสมของเรามากจนเกินไป เพราะเราอาจไม่ได้ “ส่วนแบ่ง” จากเจ้าของกิจการเลยก็ได้ครับ

 เมื่อเราพอจะทราบ “สายพันธุ์” หุ้นแต่ละประเภทแบบคร่าวๆ แล้ว ขั้นต่อไปคือการคัดเลือกสายพันธุ์หุ้นที่เหมาะสมกับแนวทางการลงทุนของเรามา “ปลูก” ในพอร์ตเกษตรสวนผสมนั่นเองครับ …

(นายแว่นธรรมดา)

“กฎของการเติบโต” 

กฎข้อที่หนึ่ง

“หุ้นเติบโตจะกลายเป็นไม้ยืนต้นได้ต้องมี DNA ของการเติบโต หุ้นที่ไม่มี DNA ที่จะเติบใหญ่ก็ยากที่จะเติบโตเป็นไม้ยืนต้นได้”

กฎข้อที่สอง

“หุ้นไม้ยืนต้นที่โตเต็มที่แล้ว จะสูงใหญ่ และบดบังแสงแดด ทำให้หุ้นที่ยังโตไม่ทันไม่สามารถกลายเป็นไม้ยืนต้นได้เสมอกัน สิ่งนี้ยิ่งทำให้หุ้นไม้ยืนต้นได้เปรียบมากขึ้นไปอีก”

กฎข้อที่สาม

“หุ้นจะเติบใหญ่ได้ นอกจาก DNA ที่อยู่ในเมล็ดพันธุ์แล้ว ยังต้องมีสภาวะที่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิ สภาพอากาศ เปรียบกับสภาวะทางธุรกิจ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภค การบริหารจัดการภายใน เป็นต้น”

กฎข้อที่สี่

“หุ้นที่เติบใหญ่เป็นไม้ยืนต้น มักจะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เป็นที่จดจำ และเป็นที่นิยมต่อเนื่องยาวนาน”

กฎข้อที่ห้า

“หุ้นที่เติบโตจนอิ่มตัวแล้ว จะกลายเป็นหุ้นไม้ผลขนาดใหญ่ และจะใหญ่ได้อีกยาวนาน จนกว่าจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น สภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจเปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเนื่องจากการเกิดขึ้นของคน Generation ใหม่ เป็นต้น”

[/premium]

เปิดรับสมัครสมาชิก

เว็บบล็อก “นายแว่นธรรมดา” เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดาครับ ใครยังไม่สมัครต้องรีบหน่อยนะครับ ของแถมล็อตนี้ใกล้หมดละครับ สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก

owl naiwaen tammada